ชาวบ้านพบโคลนผุดในทุ่งนาโคราชหลายจุด นักธรณีชี้เป็นผลจากน้ำใต้ผิวดิน

ชาวบ้านใน อ.บ้านเหลื่อม พบโคลนผุดในทุ่งนาเพิ่มขึ้นหลายจุด พร้อมติดป้ายห้ามเข้าหวั่นเจอโคลนดูด นักธรณีชี้เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติจากน้ำใต้ดิน

เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 62 จากกรณีชาวบ้านบ้านหนองกุงน้อย หมู่ที่ 10 ต.โคกกระเบื้อง อ.บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา พบดินโคลนผุดขึ้นมากลางทุ่งนาเป็นเนินสูงหลายจุด เมื่อลองสัมผัสดูพบว่าดินมีลักษณะอ่อนนุ่มคาดว่าด้านล่างจะเป็นหลุมลึก ชาวบ้านจึงปิดล้อมพื้นที่ป้องกันไม่ให้เด็กและสัตว์เลี้ยงเข้าไปเพื่อป้องกันอันตราย ซึ่งขณะนี้ยังมีดินผุดออกมาเป็นวงกว้างมากขึ้น

นายวันนา ภัยนอก อายุ 47 ปี ชาวบ้านบ้านหนองกุงน้อย หนึ่งในคณะกรรมการหมู่บ้าน กล่าวว่า ได้นำป้ายมาติดไว้บริเวณจุดที่โคลนผุดขึ้นมา เพื่อห้ามไม่ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินเข้าไปภายในโคลนผุด เพื่อป้องกันการถูกโคลนดูด อีกทั้งยังพบโคลนผุดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จำนวน 10 ไร่ พบแล้วประมาณ 9 จุด โดยคณะกรรมการหมู่บ้านเองห่วงความปลอดภัย เนื่องจากยังไม่ทราบว่าจะมีโคลดผุดขึ้นมาจากจุดไหนอีกหรือไม่ หากเดินไปเองตามลำพังอาจจะถูกโคลนดูดจนเกิดอันตรายได้ หลังจากนั้นทางคณะกรรมการหมู่บ้าน จะทำการปิดล้อมบริเวณที่พบโคลนผุด ในพื้นที่ 10 ไร่ เพื่อสำรวจพื้นที่อย่างละเอียด จะได้เป็นการป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่หรือนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนกันมาชมโคลนผุดอีกด้วย

ด้านนายทรงกลด ประเสริฐทรง นักธรณีวิทยาชำนาญการจากสำนักงานทรัพยากรธรณีเขต 2 กรมทรัพยากรธรณี หัวหน้าทีมงานวิจัยเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าดินผุดเหล่านี้เป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติของน้ำในชั้นใต้ผิวดินไหลทะลักเข้าไปทำปฏิกิริยาเคมีกับแร่ธาตุในชั้นดินเหนียวจนทำให้เกิดแรงดันผ่านรอยแยก ผสมกับดินในชั้นต่างๆ จนเกิดเป็นโคลนผุดขึ้นมา ซึ่งเป็นการปรับสมดุลแรงดันของน้ำใต้ดินซึ่งโคลนที่ผุดขึ้นมาไม่ได้มีความร้อน จึงไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องความร้อนใต้พิภพแต่อย่างใด แต่ชาวบ้านไม่ควรเข้าไปในจุดที่ดินผุดขึ้นมาเนื่องจากอาจจะเกิดโคลนดูดจนได้รับอันตรายได้