posttoday

“ชัยวัฒน์”นำชุดพญาเสือทวงคืน1.2หมื่นไร่อุทยานนายูง-น้ำโสม

21 สิงหาคม 2561

อุดรธานี-"ชัยวัฒน์"นำกำลังชุดพญาเสือ ทวงคืนผืนป่าในเขตอุทยานแห่งชาตินายูง-น้ำโสม พบบุกรุกเพิ่มหลังปี45 จำนวน 623 แปลง พื้นที่ 12,138 ไร่

อุดรธานี-"ชัยวัฒน์"นำกำลังชุดพญาเสือ ทวงคืนผืนป่าในเขตอุทยานแห่งชาตินายูง-น้ำโสม พบบุกรุกเพิ่มหลังปี45 จำนวน 623 แปลง พื้นที่ 12,138 ไร่

เมื่อวันที่ 20 ส.ค.61 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 10 อุดรธานี นำกำลังจากหน่วยพญาเสือทวงคืนผืนป่าในเขตอุทยานแห่งชาตินายูง-น้ำโสม โดยเดินทางไปที่ศาลากลางบ้าน บ.ลาดหอคำ ม.6 ต.คำด้วง พบปะชี้แจงประชาชน 17 ราย ที่เข้าไปทำกินล้ำแนวเขตป่าอนุรักษ์ 300 ไร่ที่กันไว้ตามมติ ครม.30 มิ.ย.2541 ให้ประชาชนอยู่ในพื้นที่ป่าไปก่อน แต่ห้ามบุกรุกแผ้วถางเพิ่มเติม หรือเปลี่ยนมือให้คนอื่นถ้าใครผิดข้อตกลงจะถูกยึดพื้นที่คืน โดยยึดแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ พ.ศ.2545 ขอให้ผู้บุกรุกเกินแนวเขตถอยออก แต่หากยังไม่ถอยสามารถต่อสู้คดีพิสูจน์สิทธิได้ โดยจะร่วมกันออกไปชี้แนวเขต ส่วนที่ไม่ล้ำในเขตอนุรักษ์ สามารถทำกินได้ตามปกติ

ระหว่างที่นายชัยวัฒน์ ชี้แจงทำความเข้าใจไม่มีผู้ใหญ่บ้าน ผช.ผญบ. มีเพียงสมาชิก อบต.มาร่วมรับฟัง โดยชาวบ้านที่ทำกินล้ำแนวป่าอนุรักษ์ส่วนใหญ่ ที่จะต้องถูกยึดพื้นที่คืนบางส่วน แสดงท่าทีเห็นด้วยในการคืน เพราะจะได้มีแนวเขตชัดเจนของที่ดินที่ทำกินอยู่ และอนาคตอาจะมีเอกสารสิทธิได้ ขณะมีชาวบ้านที่จะถูกพื้นที่ส่วนใหญ่คืน ยังคงแสดงท่าที่ไม่สบายใจ จนถึงไม่เห็นด้วย ยังไม่ยอมรับว่าเข้ามาทำกินหลัง พ.ศ.2545 บางรายให้เหตุผลว่า “จะไม่มีที่ทำกิน” ก็ได้รับคำชี้แจงว่า มีหน่วยงานที่จะเข้ามาติดตามหาที่ทำกินใหม่

 

จากนั้นนายชัยวัฒน์เดินทางไปสวนยางพาราของนายบรรเจิด วงษ์สุวรรณ อายุ 41 ปี และนายไกรสอน บุตรแก้ว อายุ 50 ปี อยู่บริเวณต้นน้ำ“น้ำตกยูงทอง” หีรือ “น้ำตกจากสันภูพาน”พบสวนยางพารารุกพื้นที่ริมร่องห้วยจึงยินยอมเก็บอุปกรณ์การกรีดยางออกไปพร้อมลงมือใช้เครื่องเลื่อยยนต์ตัดต้นยางพาราที่ล้ำด้วยตนเองถือเป็นแปลงแรกของหมู่บ้านพื้นที่เกือบ 2 ไร่ จาก 300 ไร่   

นายบรรเจิด วงษ์สุวรรณ เจ้าของสวนยาง เปิดเผยว่า สวนยางเป็นมรดกของภรรยา ยอมรับว่าได้ปลูกยางพาราเพิ่มล้ำแนวเดิม และยอมที่จะตัดต้นยางทออก 80 ต้น และถอยออกมาทำกินที่ดินเหลืออยู่อีก 800 ต้น และมีความหวังว่าที่ดินที่พ่อตาแม่ยาย ทำกินในป่าสงวนมาหลายสิบปี และตกทอดมาถึงครอบครัวตนเอง จะได้รับสิทธิถือครองตามกฎหมาย

คณะนายชัยวัฒน์พร้อมหน่วยพญาเสือ เดินต่อไปยัง “หุบเขาภูฮวด” กลางป่าอนุรักษ์ในเขต บ.นาหลวง ต.นาด้วง ซึ่งต้องเดินทางเข้าไปกว่า 5 กม. พบว่าพื้นบนยอดเขายังมีสภาพ “ป่าดิบแล้ง” สมบูรณ์ ต่ำลงมามีสภาพป่าถูกตัดสางเหลือเพียงป่าไผ่ ต่ำลงมาอีกก็เป็นสวนยาง ไร่มัน สวนปาล์ม และนาข้าว มีการปลูกสร้างบ้านชั่วคราว กระท่อมนาโดยไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของจึงทำการตรวจยึดพื้นที่ใหม่กว่า 300 ไร่ และพื้นที่เก่าที่ถูกดำเนินคดีแล้วอีก 113 ไร่ เข้าสู่กระบวนการตัดฟันและฟื้นฟูป่าทั้งหมด

“ อุทยานแห่งชาตินายูง-น้ำโสม พื้นที่ 245,521 ไร่ สำรวจพบบุกรุกเพิ่มหลัง พ.ศ.2545 จำนวน 623 แปลง พื้นที่ 12,138 ไร่ ดำเนินการขอคืนแล้ว 273 แปลง 585,228 ไร่ เป็นการดำเนินคดี 2,039 ไร่ เจรจาคืน 3,758 ไร่ ยังเหลือที่จะต้องดำเนินการเจรจา 341 แปลง รวม 6,180 ไร่ ส่วนนี้ถ้าไม่ยอมถอยออก จะต้องถูกดำเนินคดีเพื่อพิสูจน์ ถ้าถอยออกก็จะดำเนินคดี ที่ดินที่เหลืออยู่ทำกินต่อ รัฐจะเข้ามาพื้นฟูคืนสภาพ โดยขั้นตอนจะให้แล้วเสร็จภายใน 20 ก.ย.นี้" นายชัยวัฒน์ กล่าว

สำหรับแปลงที่ไม่มีใครมาแสดงตัว อย่างกรณีที่หุบเขาภูฮวด มีความชัดเจนว่ามีการบุกรุกปลูกยางพารา มันสำปะหลัง จะเป็นกลุ่มนายทุนจากนอกพื้นที่ เข้ามาครอบครองพื้นที่นี้อยู่ ก็จะถูกดำเนินคดีหาผู้กระทำผิด ยึดพื้นที่ป่ากลับมาพื้นฟู โดยกลุ่มผู้มีอิทธิพลก็มีบ้าง จึงต้องขอให้หน่วยพญาเสือมาช่วย ส่วนแปลงปลูกปาล์มพบทำกินก่อน พ.ศ.2545. 

“ชัยวัฒน์”นำชุดพญาเสือทวงคืน1.2หมื่นไร่อุทยานนายูง-น้ำโสม

“ชัยวัฒน์”นำชุดพญาเสือทวงคืน1.2หมื่นไร่อุทยานนายูง-น้ำโสม

“ชัยวัฒน์”นำชุดพญาเสือทวงคืน1.2หมื่นไร่อุทยานนายูง-น้ำโสม

“ชัยวัฒน์”นำชุดพญาเสือทวงคืน1.2หมื่นไร่อุทยานนายูง-น้ำโสม