posttoday

รองนายกฯสั่งกรมชลฯเร่งสร้างพื้นที่เก็บน้ำ4แห่งช่วยชาวจันทบุรี

15 สิงหาคม 2561

จันทบุรี-"พล.อ.ฉัตรชัย"ดูงานอ่างเก็บน้ำจันทบุรีสั่งกรมชลประทานเร่งก่อสร้างพื้นที่กักเก็บน้ำ4แห่งคาดหากแล้วเสร็จเก็บกักน้ำได้รวม308.56ล้านลูกบาศก์เมตรมีพื้นที่ได้รับประโยชน์130,200ไร่

จันทบุรี-"พล.อ.ฉัตรชัย"ดูงานอ่างเก็บน้ำจันทบุรีสั่งกรมชลประทานเร่งก่อสร้างพื้นที่กักเก็บน้ำ4แห่งคาดหากแล้วเสร็จเก็บกักน้ำได้รวม308.56ล้านลูกบาศก์เมตรมีพื้นที่ได้รับประโยชน์130,200ไร่

เมื่อวันที่ 15ส.ค.61 พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน และคณะ ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหางแมว อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี โดยมีนายวิทูรัข ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และกลุ่มผู้ใช้น้ำจังหวัดจันทบุรี ให้การต้อนรับ

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า โครงการอ่างเก็บน้ำคลองหางแมว ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลขุนซ่อง อำเภอแก่งหางแมว เป็น 1 ใน 4 โครงการในลำน้ำย่อยของลุ่มน้ำคลองวังโตนด ซึ่งประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำคลองพะวาใหญ่ อ่างเก็บน้ำคลองประแกด อ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด และอ่างเก็บน้ำคลองหางแมว โดยในพื้นที่มักประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเป็นประจำทุกปี กรมชลประทาน จึงได้ดำเนินการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา ดำเนินการศึกษาจัดทำแผนหลักในการพัฒนาแหล่งน้ำ และศึกษาความเหมาะสมโครงการพัฒนาลุ่มน้ำคลองวังโตนด จังหวัดจันทบุรี แล้วเสร็จเมื่อปี 2538 ซึ่งผลการศึกษาได้เสนอให้ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้ง 4 แห่ง เพื่อประโยชน์ทั้งการแก้ปัญหาภัยแล้ง ลดความรุนแรงของอุทกภัย ตลอดจนการผลักดันน้ำเค็มเพื่อคุณภาพน้ำที่ดีเหมาะต่อการนำมาใช้ในการอุปโภคบริโภค

รองอธิบดีกรมชลประทาน ยังกล่าวด้วยว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ พล.อ. ฉัตรชัย สาลิกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กรมชลประทานเร่งดำเนินงานก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหางแมว ให้แล้วเสร็จ ภายในปีงบประมาณ 2563 จากแผนเดิมที่มีระยะเวลาในการสร้าง 5 ปี พ.ศ. 2560 - 2564 เมื่อแล้วเสร็จจะเก็บกักน้ำได้ 80.70 ล้าน ลบ.ม. ใช้สำหรับการเกษตรและอุปโภคบริโภคให้กับราษฎรในเขตพื้นที่โครงการ ประมาณ 1,600 ครัวเรือน ส่งน้ำช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูก 62,000 ไร่ ส่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคเดือนละ 420,000 ลบ.ม. รวมทั้งจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำจืด ให้ราษฎรสามารถทำการประมงเพื่อเป็นรายได้เสริม

ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำคลองประแกด ดำเนินการก่อสร้างเสร็จแล้ว สามารถเก็บกักน้ำได้ 60.26 ล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่รับประโยชน์ 31,000 ไร่ ส่วนอ่างเก็บน้ำอีก 2 แห่ง อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง คือ อ่างเก็บน้ำคลองพะวาใหญ่ ความจุ 68.10 ล้านลูกบาศก์เมตร พื้นที่รับประโยชน์ 19,500 ไร่ และอ่างเก็บน้ำคลองหางแมว ความจุเก็บกัก 80.70 ชล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่รับประโยชน์ประมาณ 40,000 ไร่ ส่วนอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด อยู่ระหว่างขั้นตอนการเตรียมความพร้อม สามารถเก็บกักน้ำได้ 99.50 ล้านลูกบาศก์เมตร พื้นที่รับประโยชน์ประมาณ 39,700 ไร่ หากก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมด จะทำให้สามารถเก็บกักน้ำได้รวมกันประมาณ 308.56 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมพื้นที่รับประโยชน์ด้านท้ายอ่างเก็บน้ำทั้ง 4 แห่ง จำนวน 130,200 ไร่

ทั้งนี้ นอกจากจะส่งน้ำให้กับพื้นที่ได้รับประโยชน์ด้านท้ายของแต่ละอ่างเก็บน้ำแล้ว ปริมาณน้ำที่มีอยู่สามารถระบายและไหลลงสู่คลองวังโตนด ทำให้พื้นที่ตอนล่างของลุ่มน้ำคลองวังโตนด สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้กว่า 138,600 ไร่ รวมพื้นที่รับประโยชน์ทั้งสิ้นประมาณ 268,800 ไร่ และสามารถสนับสนุนปริมาณน้ำให้แผนพัฒนาเพื่อรองรับระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) จำนวน 100 ล้าน ลบ.ม.ต่อปีได้อีกด้วย