posttoday

ตึกสูงระฟ้าแน่นเมือง กรุงเทพฯเติบโตแออัด

03 ธันวาคม 2560

พื้นที่กรุงเทพฯ แน่นไปด้วยตึก อาคาร เต็มไปหมด สะท้อนว่าเมืองได้เติบโตเต็มที่ถึงขีดสุดแล้ว ผลที่ตามมาคือความแออัด

โดย...นิติพันธุ์ สุขอรุณ

หลายแห่งในพื้นที่กรุงเทพมหานครกำลังขยายตัวเติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า ไปจนถึงคอนโดมิเนียมที่มีขนาดสูงเสียดฟ้า ผุดขึ้นมาขนาบข้างกับบ้านเรือนในชุมชนใกล้เคียงให้เล็กลงไปถนัดตา

หนึ่งในอภิมหาโครงการที่เตรียมก่อสร้างในอีกไม่นานนี้คือ โครงการ “One Bangkok” มูลค่ากว่า 1.2 แสนล้านบาท ตั้งอยู่บนถนนพระราม 4 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน ย่านใจกลางเมืองขนาดพื้นที่ 104 ไร่ กำลังถูกเนรมิตให้กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของประเทศ เตรียมเปิดให้บริการในส่วนแรกปี 2564 และมีกำหนดสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 2568

ด้วยโครงการเป็นอาคารสูงและอาคารขนาดใหญ่ จำนวน 10 ทาวเวอร์ เชื่อมต่อกันที่ชั้นใต้ดินถึงชั้น 4 ใช้เป็นพื้นที่จอดรถ พื้นที่พาณิชยกรรม รวมถึงพื้นที่สีเขียว อาทิ โรงแรมหรู จำนวน 2 ทาวเวอร์ ขนาดความสูง 21 ชั้น จำนวนห้องพัก 237 ห้อง สำนักงาน 3 ทาวเวอร์ ความสูง 50 ชั้น ส่วนพักอาศัย ระดับอัลตราลักซ์ชัวรี่ จำนวน 2 ทาวเวอร์ ขนาดความสูง 65 ชั้น จำนวนห้องพัก 838 ห้อง และร้านค้าปลีก ทั้งหมดผุดขึ้นกลางชุมชนที่อยู่อาศัย

แม้การก่อสร้างจะยังไม่เริ่มต้นขึ้น แต่ได้สร้างความหวั่นวิตกให้กับชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียง ว่าโครงการอภิมหาโปรเจกต์ดำเนินการโดยบริษัทเอกชน จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชน และการจราจรมากน้อยเพียงใด

ถึงจะมีการระบุในแบบสอบถามความคิดเห็นว่า โครงการนี้มีระบบกำจัดน้ำเสีย ควบคุมคุณภาพก่อนปล่อยทิ้งตามกฎหมาย ไปจนถึงจุดพักขยะมูลฝอยได้มาตรฐาน แต่ก็เป็นเพียงเอกสารไม่กี่หน้าที่บริษัท ไท-ไท วิศวกร ส่งให้กับชุมชนได้แสดงความคิดเห็น ทว่าผลการสำรวจของประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงถูกเก็บเป็นความลับและไม่นำมาเปิดเผยต่อสาธารณะ

เกื้อกูล สมบัติเจริญ ผู้ประสานงานชุมชนกุหลาบแดง เปิดเผยว่า ตัวแทนชุมชนรอบพื้นที่ของโครงการเดินทางมายื่นเรื่องต่อสภากรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อขอให้ช่วยติดตามตรวจสอบรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เสียงดังรบกวน ฝุ่นละออง ควัน ทางน้ำไหลจากชุมชนและปัญหาการจราจร รวมถึงลักษณะอาคารที่เป็นตึกสูงติดกระจกโดยรอบ อาจทำให้แสงอาทิตย์ที่มากระทบกับกระจกสะท้อนไปส่งผลกระทบกับชุมชนที่อยู่โดยรอบ

“ที่ผ่านมามีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นแล้ว 2 ครั้ง โดยมีการแจ้งในรายละเอียดโครงการที่ระบุถึงมาตรการแก้ไขผลกระทบต่างๆ มีเยอะมาก แต่ด้วยโครงการอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้น ความเดือดร้อนที่ชัดเจนจึงยังไม่มี แต่หากว่าวันหนึ่งเมื่อปัญหาเกิดขึ้นจริงแล้ว มาตรการที่ระบุไว้จะถูกนำมาปฏิบัติหรือไม่ จึงต้องการให้ทางสภา กทม.ช่วยติดตามตรวจสอบโครงการ อย่างไรก็ตามชุมชนไม่ได้ขัดขวางการพัฒนาที่ดินในบริเวณนี้ เพียงแต่อยากให้แน่ใจถึงระบบการแก้ปัญหาความเดือดร้อนกับชุมชนเป็นไปตามมาตรฐาน” เกื้อกูล กล่าว

ด้าน พรชัย เทพปัญญา สมาชิกสภา กทม. ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญศึกษาปัญหาและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในการก่อสร้างโครงการ One Bangkok เปิดเผยว่า โครงการนี้อยู่ช่วงเริ่มต้นรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ จึงยังไม่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการด้านสิ่งแวดล้อมของ กทม. ก่อนขออนุญาตก่อสร้างจากสำนักการโยธา โดยชุมชนใกล้เคียงมีความเป็นห่วงว่าบริษัทที่รับทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม อาจจะไม่โปร่งใสหรือปิดบังข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมามีการดำเนินการไปแล้วแต่ยังไม่เปิดเผยข้อมูล

ทั้งนี้ แนวทางคณะกรรมการขึ้นมาจะตรวจสอบมาตรการแก้ไขผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งกับสิ่งแวดล้อมและชุมชน เช่น ปัญหาการจราจร แม้จะบอกว่ามีแนวทางจัดการ แต่ข้อเท็จจริงไม่มีใครรู้ว่าปริมาณรถยนต์จะติดขัดมากน้อยแค่ไหน แก้ไขได้จริงหรือไม่ ส่วนเรื่องปริมาณขยะยังไม่มีใครรู้ว่าแต่ละวันมีจำนวนเท่าใด แล้วทำอย่างไรในการส่งไปกำจัด เพราะเกี่ยวข้องกับอีกหลายหน่วยงานได้มีการประสานแล้วหรือไม่ มีศักยภาพความพร้อมหรือไม่ ทั้งหมดคือสิ่งที่คณะกรรมการสภา กทม. ต้องติดตามตรวจสอบอย่างต่อเนื่องในแต่ละช่วงเวลา

พรชัย กล่าวอีกว่า ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่ายุคสมัยของการพัฒนาเมืองเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทำให้มีการสร้างอาคารสูงเกิดขึ้นหลายแห่งทั่วเมือง ซึ่งทุกวันนี้ควรหยุดสร้างอาคารสูงได้แล้ว เนื่องจากกรุงเทพฯ อยู่ในภาวะแออัดมาก หากต้องการสร้างศูนย์การค้า โรงแรม สำนักงาน ควรขยายออกไปในพื้นที่รอบกรุงเทพฯ เช่น สมุทรปราการ นนทบุรี นครปฐม ให้กลายเป็นย่านธุรกิจแห่งใหม่หรือเมืองใหม่ได้อีกมาก ไม่จำเป็นต้องพื้นที่กรุงเทพฯ เท่านั้น

“พื้นที่กรุงเทพฯ แน่นไปด้วยตึก อาคาร เต็มไปหมด สะท้อนว่าเมืองได้เติบโตเต็มที่ถึงขีดสุดแล้ว ผลที่ตามมาคือความแออัด ฉะนั้นไม่ควรสร้างอาคารใดในกรุงเทพฯ อีก แม้ กทม. จะไม่สามารถไปห้ามไม่ให้สร้างอาคารสูงในเมืองได้ แต่ก็มีกฎหมายควบคุมอาคาร ควบคุมการก่อสร้างอยู่ ดังนั้นจะสร้างอะไรต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนให้ถี่ถ้วน” พรชัย กล่าว