พ่อขับกระบะฝ่าฝนคู่กรณีไม่ยอมให้แซงชนเสาไฟฟ้าดับพร้อมลูกสาว

นครศรีธรรมราช-พ่อขับกระบะฝ่าฝนตกหนักเจอคู่กรณีไม่ยอมให้แซงเสียหลักชนเสาไฟฟ้าดับพร้อมลูกสาววัย18ส่วนภรรยารอดแต่อาการสาหัส
 
เมื่อวันที่ 28 พ.ย.60 เวลา 22.00น. ร.ต.อ.ธวัชชัย ศรีใหม่ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุรถยนต์กระบะ 2 คัน เฉี่ยวกันและเสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าที่ถนนกะโรม หน้าโรงเรียนนครอาชีวศึกษา ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมืองนครศรีธรรมราช มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีเทาดำ ทะเบียน บว-7719 นครศรีธรรมราช ชนเสาไฟฟ้าจนหักสภาพพังยับเยินมีผู้เสียชีวิต 1 ศพ และบาดเจ็บสาหัส 2 คนติดอยู่ในซากรถกระบะเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ได้นำเครื่องตัดถ่างมาทำการงัดนำร่างผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บออกมานำส่งรพ.มหาราชนครศรีธรรมราช แต่คนเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตที่ รพ.ในเวลาต่อมารวมผู้เสียชีวิต2ศพ

 นอกจากนี้ยังพบรถยนต์คู่กรณียี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ขน-6773 สงขลา จอดอยู่ฝั่งตรงข้ามถนน ล้อหน้าด้านขวาพังเสียหาย มีนายอนุวัฒน์ พงศ์ทองเมือง อายุ 22 ปี นักศึกษาม.ราชภัฏนครศรีธรรมราช คนขับไม่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนแฟนสาวคือ น.ส.สุวดี ขำเพ็ง อายุ 18 ปี แฟนสาวที่มาด้วยกันบาดเจ็บไม่มากต่อมาทราบชื่อผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่ในซากรถกระบะที่ชนเสาไฟฟ้าคือนายฉกาจ คงหวัง อายุ 46 ปี และผู้เสียชีวิตที่ รพ.คือน.ส.ปัทมาวดี คงหวัง อายุ 18 ปี พ่อกับลูกอยู่บ้านเลขที่ 40/3 หมู่ 3 ต.คลองท่อมเหนือ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ส่วนผู้บาดเจ็บที่มาด้วยกันคือ นางยุพา คงหวัง อายุ 36 ปี ภรรยาของนายฉกาจผู้ตาย ขณะอาการสาหัส ยังอยู่ในการดูแลของแพทย์พยาบาลของ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช อย่างใกล้ชิด

 

จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุขณะที่ฝนกำลังตกนายฉกาจผู้ตายได้ขับรถมาจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช มีลูกสาว และภรรยานั่งโดยมากัน 3 คน ส่วนนายอนุวัฒน์ฯ คู่กรณีขับรถไปรับน.ส.สุวดีแฟนสาวที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในตัวเมืองเพื่อกลับบ้านพัก ก่อนถึงที่เกิดเหตุนายฉกาจพยายามขับแซงรถนายอนุวัฒน์แต่นายอนุวัฒน์ไม่ยอมให้แซงจึงเบียดกันไปเบียดกันมาเป็นระยะทางยาวเกือบ 1 กม.มื่อมาถึงที่เกิดเหตุปรากฏว่ามีรถจักรยายนต์ซาเล้งแล่นนำหน้ารถของนายอนุวัฒน์จึงได้ขับเบี่ยงเพื่อหลบในขณะเดียวกันรถของนายฉกาจมาถึงพอดีทำให้ชนกันอย่างจังรถกระบะนายฉกาจเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า เป็นเหตุให้พ่อลูกเสียชีวิตเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายอนุวัฒน์ไปทำการสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายแล้ว.