posttoday

ครอบครัวเหยื่อปืนโหดกลัวไม่ปลอดภัยหลังคดีหมดอายุความ

29 มิถุนายน 2560

บุรีรัมย์-ครอบครัวแสนประเสริฐ ยอมรับกลัวความไม่ปลอดภัยหลังคดีผู้ต้องหาฆ่าพ่อหมดอายุความขณะที่อดีตจำเลยที่1ยันไม่ได้ร่วมลงมือด้วย

บุรีรัมย์-ครอบครัวแสนประเสริฐ ยอมรับกลัวความไม่ปลอดภัยหลังคดีผู้ต้องหาฆ่าพ่อหมดอายุความขณะที่อดีตจำเลยที่1ยันไม่ได้ร่วมลงมือด้วย

นายสมคิด แสนประเสริฐ บุตรชายของนายมน แสนประเสริฐ ซึ่งถูกนายบัวพา พูนไธสง อดีตผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิต และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ไม่สามารถจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ตามกฎหมายจนกระทั่งคดีขาดอายุควา เปิดเผยว่า รู้สึกกังวลใจเกรงว่าครอบครัวจะไม่ปลอดภัยเนื่องจากหมดอายุความแล้ว ที่ผ่านมาตลอด 20 ปีก็พยายามเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับพ่อที่เสียชีวิตมาโดยตลอด

"ที่ผ่านมาไม่เคยถูกเรียกเข้าให้ปากคำเลยแม้แต่ครั้งเดียว  ทั้งที่วันเกิดเหตุอยู่ในเหตุการณ์และมีคนเห็น แต่พนักงานสอบสวนกลับไปสอบพยานแวดล้อมอื่นๆจึงมองว่าการทำคดีส่อพิรุธมีเงื่อนงำ หากเป็นไปได้อยากให้ตำรวจเปิดเผยสำนวนให้ดูเพื่อความบริสุทธิ์โปร่งใสในการทำคดี"นายสมคิด กล่าว
 
ด้านนายพนม  สีสุระ จำเลยที่ 1 ที่ได้ต่อสู้คดี และศาลพิพากษายกฟ้องไปแล้วก่อนหน้านี้เปิดเผยว่าวันเกิดเหตุ (28 มิ.ย.40)ไม่ได้อยู่ในงานแต่ง แต่นั่งดื่มเหล้าอยู่กับลูกชายคนโของนายมน  ผู้ตาย  กระทั่งได้ยินเสียงปืนจึงเดินไปดูเหมือนกับชาวบ้านคนอื่น   พอวันต่อมากลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุม และถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ร่วมก่อเหตุยิงนายมนเสียชีวิตยืนยันว่าไม่ได้ก่อเหตุจึงไม่รู้ว่าสาเหตุใดกลับตกเป็นจำเลยที่ 1ได้ต่อสู้คดีว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุกระทั่งถูกศาลยกฟ้องเนื่องจากไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอ

สำหรับนายบัวพาหลบหนีไปนาน ถึง 17 ปี และถูกจับกุมตัวได้ เมื่อปี 2557 ซึ่งศาลก็อนุญาตให้ประกันตัว  ต่อมา อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ  กระทั่งครอบครัวผู้เสียหายได้ยื่นฟ้องเอง โดยศาลจังหวัดนางรอง ได้รับฟ้องเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2560 และออกหมายจับ ก่อนหมดอายุความเพียง 8 วันที่ผ่านมาตำรวจก็ได้ออกติดตามตัวมาโดยตลอด แต่ไม่สามารถจับกุมได้ จนสิ้นสุดคดีหมดอายุความลง