posttoday

ตร.ค้นยาบ้าหาไม่พบต้องให้ผู้ต้องหาสาบานหลวงปู่ทวดจนเจอ

28 กรกฎาคม 2559

นครศรีธรรมราช-ฉก.ศรีวิชัย บุกจับ“ดำ คลองกลาย” ผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ค้นหาของกลางไม่เจอต้องให้ผู้ต้องหาสาบานกับหลวงปู่ทวดจบพบซ่อนอยู่ที่ชายคาบ้าน

นครศรีธรรมราช-ฉก.ศรีวิชัย บุกจับ“ดำ คลองกลาย” ผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ค้นหาของกลางไม่เจอต้องให้ผู้ต้องหาสาบานกับหลวงปู่ทวดจบพบซ่อนอยู่ที่ชายคาบ้าน
 
เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 28 ก.ค.59 นายอำพล สังข์ทอง หัวหน้าชุดเฉพาะกิจศรีวิชัย (ฉก.ศรีวิชัย) ของผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช สืบทราบมาว่า นายศะตินันท์ ศรีมัง หรือชูวิทย์ หรือ “ดำ คอลงกลาย” อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/6 ม.5 ต.กลาย อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เป็นผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ ซึ่งเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามพฤติกรรมมานานแล้ว แต่ไม่สามารถจับกุมตัวได้
 
ต่อมาจึงให้สายลับเข้าทำการตรวจสอบที่บ้านดังกล่าวพบว่าเปิดเป็นร้านขายของชำเพื่อบังหน้า และสายลับได้พบอุปกรณ์เสพยาไอซ์ตั้งอยู่บนโต๊ะวางของภายในร้าน จึงมั่นใจว่าที่บ้านดังกล่าวนั้นได้ซุกซ่อนยาเสพติดไว้อย่างแน่นอน เจ้าหน้าที่ชุด ฉก.ศรีวิชัย จึงนำกำลังเข้าทำการตรวจค้นโดยแสดงบัตรพนักงาน ปปส.ให้เจ้าของบ้านได้ดู ก่อนจะค้นบ้านอย่างละเอียดและใช้เวลาในการตรวจค้นนานมากแต่ก็ไม่พบ
 
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวเจ้าของบ้านคือนายศะตินันท์ฯ ให้ไปสาบานต่อหน้าหลวงปู่ทวดว่า “ถ้ามีของอยู่ในบ้าน ขอให้เจ้าหน้าที่ค้นเจอ” หลังจากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ก็พบของกลางทั้งยาบ้าและยาไอซ์ซุกซ่อนอยู่ที่ชายคาบ้าน ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่แกะดูพบทั้งยาบ้าจำนวน 200 เม็ด และและยาไอซ์จำนวน 9 ถุง น้ำหนัก 117.84 กรัม รวมทั้งอุปกรณ์เสพอีก 1 ชุด เจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุมตัวนายศะตินันท์ฯ มาทำการสอบสวน
 
ตอนแรกนายศะตินันท์ หรือ “ดำ คลองกลาย” ไม่ยอมรับสารภาพ แต่หลังจากให้สาบานต่อหน้าหลวงปู่ทวดแล้วตรวจค้นพบของกลางดังกล่าวแล้วจึงเสียงอ่อย ยอมรับว่า ของกลางทั้งหมดเป็นของตนเอง บางส่วนมีคนนำมาฝากขาย ซึ่งไม่อยากเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง เนื่องจากหลังสาบานกับหลวงปู่ทวดแล้วเจ้าหน้าที่ก็เจอของกลางทั้งหมด ทั้งๆ ก่อนหน้านั้นหาเท่าไรก็ไม่พบ กระทั่งโดนจับกุมในที่สุด

ส่วนของกลางทั้งหมดรับมาจากเอเย่นต์คนหนึ่งนำมาจำหน่ายให้กับคนในพื้นที่มานานแล้ว ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนอยู่นั้น ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งโทรศัพท์มาทวงค่ายาเสพติดจากนายศะตินันท์ฯ ว่า เงินที่ค้างค่ายาเสพติดที่ค้างยู่กว่า 1 แสนบาท เมื่อไรจะโอนให้ ซึ่งโทรมา 2-3 ครั้ง แต่นายศะตินันท์ฯ บอกว่า “ค่อยคุยกัน” แล้วรีบปิดโทรศัพท์ทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการต่อไป
 
สำหรับนายศะตินันท์ ผู้ต้องหารายนี้เคยถูกจับกุมดำเนินคดียาบ้ามาแล้วครั้งหนึ่ง และศาลชั้นต้นกับศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 8 ปี แต่ในชั้นศาลฎีกาถูกยกห้อง จึงพ้นโทษออกมาแล้วมีพฤติกรรมค้ายาเสพติดจนเป็นที่กล่าวขานกันทั่วไป ต่อมานายอำพล สังข์ทอง หน.ชุด ฉก.ศรีวิชัย ได้ส่งสายเข้าตรวจพบว่าค้ายาเสพติดจริงจึงเข้าทำการจับกุมตัวได้พร้อมของกลางจำนวนมากดังกล่าว จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าศาลา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย