แม่ดีเด่นร้องโรงเรียนสวนกุหลาบรังสิตตัดสิทธิ์ลูก

แม่ดีเด่นและผู้ปกครองร้องโรงเรียนสวนกุหลาบรังสิต ตัดสิทธิ์ลูกเรียนต่อ ม.ปลาย

ผู้ปกครองจำนวนมาก จับกลุ่มปรึกษาการคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนต่อในชั้น ม.4  ของโรงเรียนสวนกุหลาบรังสิต 2/617 ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เนื่องจากนักเรียนชั้น ม.3 ที่แสดงความประสงค์จะเรียนต่อในชั้น ม.4 แต่กลับถูกตัดสิทธิ์ไม่มีชื่อในการรายงานตัว โดยไม่ทราบสาเหตุทั้งๆที่ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ(สพฐ.)  มีนโยบายให้โรงเรียนรับ เด็กเก่าที่เรียนตั้งแต่ชั้นม.ต้น เพื่อเรียนต่อในชั้นม.ปลายก่อน แต่ผู้บริหารโรงเรียนสวนกุหลาบได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณา เพื่อรับนักเรียนโดยผู้ปกครองไม่ทราบ
 
ด.ต อนามัย ธนวรรณ ผบ.หมู่ธุรการ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ อ.คลองหลวง หนึ่งในผู้ปกครองที่ลูกถูกตัดสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเองเพิ่งทราบข่าวว่าลูกชายถูกตัดสิทธิ์เรียนต่อในชั้นม.ปลาย ทั้งๆที่ทำเรื่องแสดงความประสงค์เพื่อเรียนต่อ ตั้งแต่ก่อนสอบปลายภาคในชั้นม.3 และลูกชายก็ไม่ได้สอบ ตกสักวิชา และตนก็มั่นใจว่าลูกจะได้เรียนต่อตามนโยบายของสพฐ แต่แต่เมื่อวันที่ 1 ที่ผ่านมา โรงเรียนได้ประกาศผลการพิจารณาโดยคณะกรรมการและให้มอบตัวในวันที่ 2 ซึ่งเป็นวันหยุด โดยทางโรงเรียนก็ไม่ได้แจ้งให้ทราบสาเหตุว่าทำไมลูกของตนถึงไม่ได้เรียนต่อ ซึ่งตอนนี้ตนเองพยายามติดต่อไปที่โรงเรียนอื่น ต่างก็ปฎิเสธการรับเนื่องจากเสร็จสิ้นขบวนการทำให้ลูกชายตนเสียสิทธิ์ ซึ่งตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
 
ด้าน นาง ยุวดี(ขอสงวนชื่อ)  กล่าวว่า ตนเองเป็นผู้ปกครองของ นักเรียนชั้นม.3 และเมื่อปี 52 ตนเองได้รับรางวัล แม่ดีเด่นเพราะบุตรชายคนโตได้ทำชื่อเสียงให้กับโรงเรียนไว้มาก และลูกชายคนเล็กได้เรียนจบชั้นม.3 ได้ทำตามกฎเกณฑ์ ของโรงเรียนทุกอย่าง ซึ่งตนก็รอว่าเมื่อไหร่โรงเรียนจะติดต่อไป แต่ก็ไม่ได้รับแจ้งจากทางโรงเรียนว่าลูกจะไม่มีสิทธิ์เรียนต่อในชั้นม.ปลาย มาทราบข่าวจากผู้ปกครองท่านอื่นว่าทางโรงเรียนได้มอบตัวนักเรียนชั้นม.ปลาย ไปแล้ว จึงติดต่อมาที่ฝ่ายวิชาการ แต่ได้รับคำตอบว่าให้ไปเรียนโรงเรียนเอกชน เพราะคณะกรรมการที่ทางโรงเรียนตั้งขึ้นมาตัดสิทธิ์ลูกของตน ตนจึงเรียกรถแท็กซี่มาที่โรงเรียนและร้องไห้มาตลอดทาง เนื่องจากสงสารลูกทีจะไม่มีที่เรียน  แต่เพื่อนๆของ ลูกชายที่เรียนไม่เก่งกลับได้รับการพิจารณาเนื่องจาก ผู้ปกครองวิ่งเต้นกับทางโรงเรียน
 
ด้าน นางเสาวณี (นามสมมุติ) กล่าวว่า ลูกของตนเองก็ถูกคณะกรรมการตัดสิทธิ์แต่ถามผู้ปกครองที่ลูกมีรายชื่อต่างพูด ตรงกันว่า ได้มาติดต่อทางโรงเรียนและทางโรงเรียนได้เสนอให้เข้าเรียนในโปรแกรมภาษา อังกฤษ(EP) ซึ่งผู้ปกครองจะต้องสนับสนุนโรงเรียน โดยมีใบเสร็จจากคณะกรรมการซึ่งลูกของผู้ปกครองคนดังกล่าวเข้าเรียนในชั้นม.1 บริจาคโรงเรียนเป็นจำนวนเงิน 80,000 บาท ไม่ทราบว่าเป็นเพราะสาเหตุนี้หรือเปล่าที่ลูกตนเองถึงถูกตัดสิทธิ์
 
ขณะที่กลุ่มผู้ปกครองรอเข้าพบกับผู้อำนวยการโรงเรียน ได้มีครูประจำชั้นม.3 เข้ามาทักทายและให้คำแนะนำว่า ทำไมไม่วิ่งเต้นตั้งแต่ตอนปิดเทอมใหม่ๆ ตอนนี้มีวิธีเดียวคือต้องให้ผู้ใหญ่หรือนักการเมือง ใช้เส้นเพื่อจะได้มีสิทธิ์เรียนต่อ ไม่ใช่สอบได้แล้วจะได้เรียนทุกคน ทำให้ผู้ปกครองถึงกับซึมและมีบางคนตัดสินใจกลับโดยไม่รอพบผู้อำนวยการโรงเรียน