ดีเอสไอแจ้งอีก 3 ข้อหาก จตุพร
ดีเอสไอ แจ้ง 3 ข้อหาเพิ่มเติมแก่นายจตุพร/ปลอมแปลงเอกสาร/เปิดเผยความลับของราชการ/จงใจใส่ร้ายผู้อื่นให้รับโทษ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย นำข้อมูลสำนวนการสอบสวนคดีก่อการร้ายไปเปิดเผยในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมาว่า การอภิปรายของนายจตุพรแม้จะได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ แต่เอกสิทธิ์คุ้มครองเฉพาะการเปิดเผยในสภา แต่ไม่ได้ให้ความคุ้มครองถึงการนำข้อมูลถ่ายทอดสู่สาธารณชน ดังนั้นคณะพนักงานสอบสวนมีมติเอกฉันท์ให้ดำเนินคดีกับนายจตุพรใน 3 ฐานความผิด ได้แก่
ดีเอสไอ แจ้ง 3 ข้อหาเพิ่มเติมแก่นายจตุพร/ปลอมแปลงเอกสาร/เปิดเผยความลับของราชการ/จงใจใส่ร้ายผู้อื่นให้รับโทษ
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย นำข้อมูลสำนวนการสอบสวนคดีก่อการร้ายไปเปิดเผยในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมาว่า การอภิปรายของนายจตุพรแม้จะได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ แต่เอกสิทธิ์คุ้มครองเฉพาะการเปิดเผยในสภา แต่ไม่ได้ให้ความคุ้มครองถึงการนำข้อมูลถ่ายทอดสู่สาธารณชน ดังนั้นคณะพนักงานสอบสวนมีมติเอกฉันท์ให้ดำเนินคดีกับนายจตุพรใน 3 ฐานความผิด ได้แก่
1.. ปลอมเอกสารของทางราชการ เพราะมีการตัดต่อข้อความบางส่วน เลือกเฉพาะส่วนที่เป็นประโยชน์ ส่วนที่เป็นโทษไม่มีการพูดถึง เช่น กรณีเจ้าหน้าที่ทหารบนรางรถไฟบีทีเอส ให้ถ้อยคำยืนยันว่ามีชายชุดดำใช้อาวุธปืนยิงใส่ทหาร ทหารจึงต้องยิงโต้ตอบเพื่อป้องกันตัว ซึ่งนายจตุพรไม่พูดถึงประเด็นนี้
2.. นายจตุพรนำความลับในสำนวนการสอบสวนไปเปิดเผยต่อสาธารณะ อันอาจเกิดความเสียหายต่อพยานหลักฐาน และก่อให้เกิดเสียหายทางรูปคดี
3.. นายจตุพรจงใจใส่ร้ายผู้อื่นให้อาจต้องรับโทษทางอาญา ทั้งที่ยังไม่มีมูลความผิด
นายธาริต กล่าวว่า ดีเอสไอจะกล่าวหาดำเนินคดีกับนายจตุพรและถือเป็นคดีเกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันกับคดีก่อการร้ายที่ดีเอสไอมีอำนาจสอบสวนโดยไม่ต้องแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) อย่างไรก็ตาม ตนขอยืนยันว่าการดำเนินคดีทั้ง ๓ ข้อหากับนายจตุพรไม่ใช่ความโกรธแค้นส่วนตัว แต่เป็นเรื่องที่ต้องปกป้องความเสียหายขององค์กร และเพื่อไม่ให้เกิดเป็นเยี่ยงอย่างในภายหน้า นอกจากนี้ ในการอภิปรายของนายจตุพรก็ไม่มีประเด็นใดพาดพิงถึงการปฏิบัติหน้าที่ของตน แต่นายจตุพรได้ทำปลอมเอกสารของทางราชการโดยการนำข้อความมาตัดต่อใหม่