posttoday

ศบค.เผยแนวโน้มผู้ติดเชื้อใหม่ลดลงช้า ๆ หวังปีนี้กลายเป็นโรคประจำถิ่น

12 มกราคม 2565

ศบค. เผย โควิดระลอกใหม่ แนวโน้มติดเชื้อเริ่มทรงตัว และลดลงช้า ๆ คาดมาจากมาตรการชะลอการระบาด ทำให้มีความหวังโควิดปีนี้กลายเป็นโรคประจำถิ่น ย้ำต้องใช้ชีวิตแบบนิวนอร์มอล

เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 64 พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้ช่วยโฆษก ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศประจำวันตอนหนึ่งว่า แนวโน้มการติดเชื้อในประเทศหลังจากวัน 10 ม.ค.ที่ผ่านมา มีทิศทางทรงตัว และเหมือนลดลงอย่างช้าๆ เป็นผลจากมาตรการต่างๆ ที่ชะลอการติดเชื้อ โดยการระบาดระลอก ม.ค.65 มีผู้ป่วยอาการหนักน้อยกว่าระลอก เม.ย. 2564 โดยมีสัดส่วนผู้ป่วยอาการหนัก 1 ต่อ 1,000 ราย ซึ่งเป็นลักษณะของโรคประจำถิ่น ทำให้มีความหวังว่าภายในปีนี้โควิดจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น แต่โควิดแตกต่างจากโรคประจำถิ่นอื่นๆ เพราะการใช้ชีวิตประจำวันอยู่กับโรคให้ได้ ต้องเป็นชีวิตวิถีใหม่ ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่นอกบ้าน สำหรับสายพันธุ์โอมิครอน จนถึงขณะนี้ในประเทศยังไม่พบผู้เสียชีวิตจากสายพันธุ์ดังกล่าว

พญ.สุมนี กล่าวว่า การจัดการยังต้องเน้นการตรวจคัดกรอง ATK เป็นหลัก ทุกกิจกรรมที่มีคนจำนวนมาก เช่น สัมมนา เรียนหนังสือ ให้คัดกรองด้วย ATK ก่อน ใช้ประจำให้เคยชิน หากผลเป็นบวก ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อเกินครึ่งอาการน้อยหรือไม่มีอาการ ให้โทร 1330 เพื่อเข้าระบบการรักษาตัวที่บ้าน ซึ่งเป็นการจัดการหลักในช่วงนี้ (Home Isolation First) รวมถึงต้องเน้นกระตุ้นคนรับวัคซีนครบ 2 เข็มไปฉีดเข็ม 3 เพิ่มขึ้น โดยยุทธศาสตร์การจัดการโควิดปีนี้ คือ ชะลอการระบาดให้มากที่สุด