posttoday

เปิดขั้นตอน ขอรับ ATK สปสช. ฟรี เริ่ม 16 กย. นี้

15 กันยายน 2564

กทม.จับมือ สปสช. กระจาย ATK กว่า 2 ล้านชุด ผ่าน 2 ช่องทางหลัก แจกในชุมชน-แจกที่หน่วยบริการ โรงพยาบาล คลินิก ร้านขายยา ขอรับผ่านแอพ “เป๋าตังค์” ดีเดย์ 16 ก.ย. นี้

พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แถลงข่าวความพร้อมการแจกชุดตรวจโควิด-19 Antigen Test Kit (ATK) ให้แก่ชาวกรุงเทพฯ เพื่อใช้ตรวจหาเชื้อโควิดด้วยตนเอง

นพ.จเด็จ กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 แม้ว่าปัจจุบันจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่จะมีจำนวนลดลง แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลมาตรการหนึ่ง ที่สำคัญคือการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพื่อนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษาโดยเร็ว ดังนั้น คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน จึงมีมติอนุมัติจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการจัดซื้อชุดตรวจ ATK จำนวน 8.5 ล้านชุด โดยประสานความร่วมมือกับโรงพยาบาลราชวิถีและองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เพื่อแจกให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยง

ทั้งนี้ ด้วยกรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม และเป็นจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุด เนื่องจากมีประชากรอาศัยอย่างหนาแน่นและแออัด จำเป็นต้องเร่งควบคุมการแพร่ระบาดโดยเร็ว สปสช. จึงได้จัดสรร ATK จำนวน 2,026,000 ชุด และร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร โดยสำนักอนามัย กระจายแจก ATK ให้กับประชาชนที่มีชื่อตามทะเบียนบ้านในกรุงเทพฯ ผ่านคลินิกชุมชนอบอุ่น คลินิกเอกชน คลินิกการแพทย์ และร้านยา ขณะเดียวกันยังได้จัดระบบรองรับการรักษาสำหรับประชาชนที่มีผลตรวจติดเชื้อโควิด-19 เข้าสู่ระบบการดูแลผู้ติดเชื้อที่บ้านและในชุมชน พร้อมส่งต่อในกรณีที่เจ็บป่วยรุนแรง เพื่อให้เข้าถึงการรักษาได้อย่างครอบคลุม

ด้าน พล.ต.ท.โสภณ กล่าวว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีความห่วงใยชาวกรุงเทพมหานครทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 นี้ จึงสั่งการให้เร่งความร่วมมือกับทุกหน่วยงาน ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดการแพร่ระบาดและดูแลประชาชนให้เข้าถึงบริการกรณีโควิด-19 ที่จำเป็นให้ทั่วถึงโดยเร็ว โดยการกระจายชุดตรวจ ATK นี้ นับเป็นอีกครั้งหนึ่งของความร่วมมือระหว่าง กทม. และ สปสช. ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ด้วย กทม. เป็นพื้นที่พิเศษ ไม่เพียงแต่การแจกชุดตรวจ ATK ผ่านหน่วยบริการเท่านั้น แต่ยังเน้นการกระจาย ATK ไปที่ชุมชนต่างๆ และสถานประกอบการที่เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ประกอบด้วย กลุ่มตลาดจำนวน 410,000 ชุด กลุ่มร้านเสริมสวยจำนวน 20,000 ชุด กลุ่มร้านนวด สปา จำนวน 56,000 ชุด กลุ่มครู อาจารย์ จำนวน 300,000 ชุด กลุ่มชุมชนอีกจำนวน 420,000 ชุด นอกจากนี้จะแจกในกลุ่มขนส่งสาธารณะจำนวน 440,000 ชุด ด้วยเช่นกัน

เปิดขั้นตอน ขอรับ ATK สปสช. ฟรี เริ่ม 16 กย. นี้

สำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครสามารถรับชุดตรวจโควิด-19 ATK ฟรี ประกอบด้วย 1.ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ และผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง 7 โรค 2.ผู้ที่สงสัยว่ามีอาการติดเชื้อ (มีไข้ ไอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หายใจหอบ หายใจลำบาก) 3.ผู้ที่อยู่ร่วมบ้านกับผู้ติดเชื้อโควิด 4.ผู้ที่ทำงานประสานงานในชุมชน

ขั้นตอนการแจกชุด ATK 2 ช่องทาง คือ 1. แจกในพื้นที่หรือชุมชนเสี่ยงและตลาด สถานีขนส่งสาธารณะ ร้านเสริมสวย ร้านนวด สปา ครู อาจารย์ โดยสำนักงานเขตและศูนย์บริการสาธารณสุขพื้นที่ จะประสานอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) สำรวจผู้ที่มีคุณสมบัติและบริหารจัดการการแจกจ่ายชุด ATK พร้อมให้คำแนะนำการใช้และการติดต่อหากผลเป็นบวก และ 2. แจกผ่านหน่วยบริการ (โรงพยาบาล คลินิก และร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการ) โดยกรณีประชาชนมีสมาร์ทโฟน ให้ประเมินความเสี่ยงผ่านแอพ “เป๋าตังค์” ตอบคำถาม 3 ข้อ และไปรับชุด ATK ได้ที่คลินิกและร้านยาที่เข้าร่วมโครงการ โดยสังเกตสัญลักษณ์ร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการ “จุดแจกชุดตรวจโควิด ATK ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง” กรณีประชาชนไม่มีสมาร์ทโฟน สามารถไปขอรับได้ที่โรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการ โดยเจ้าหน้าที่จะทำการคัดกรองและยืนยันตัวตนให้ ทั้งนี้ประชาชนจะได้รับคนละ 2 ชุด และต้องตรวจห่างกัน 5 วัน

ในส่วนของประชาชนที่มีผลตรวจโควิด-19 ด้วยชุด ATK เป็นบวก สามารถติดต่อเพื่อลงทะเบียนเข้าสู่ระบบการรักษาได้ 4 ช่องทาง ดังนี้ 1.ติดต่อหน่วยบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน โรงพยาบาล ศูนย์บริการสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ อสส. หรือร้านขายยาซึ่งไปรับชุดตรวจ โดยเมื่อไปรับชุดตรวจเจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อมูลการปฏิบัติตนให้ทราบ 2.ติดต่อสายด่วน สปสช. 1330 กด 14 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง 3.เข้าลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ www.nhso.go.th และ 4. แจ้งช่องทาง Line@nhso ทั้งนี้ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูล รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330