posttoday

ศบค. แจงปมซื้อซิโนแวคเพิ่ม "จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน" ส่งมอบไม่ทัน "แอสตราฯ"มาน้อย

18 สิงหาคม 2564

ศบค. แจง 2 เหตุผล ซื้อซิโนแวคอีก 12 ล้านโดส ยึดความเห็นผู้เชี่ยวชาญ มีรายงานการศึกษาการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ยืนยัน - แผนฉีดไขว้ "จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน" ส่งมอบไม่ทัน "แอสตราเซเนกา" มาน้อยจาก 10 ล้านโดสเหลือ 5-6 ล้านโดส

เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 64 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือศบค. กล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งคำถามมากว่าทำไมรัฐบาลจัดซื้อวัคซีนซิโนแวคเพิ่มอีก 12 ล้านโดส ว่า ศบค.ยึดความเห็นของผู้เชี่ยวชาญทั้งในพื้นที่และโรงเรียนแพทย์ที่หลากหลาย โดยเป็นการรายงานการศึกษาการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ที่พบว่ามีบุคลากรที่ฉีดซิโนแวคสองเข็มแล้วมีการติดเชื้อ หลัง 14 วันไปแล้วพบว่าประสิทธิผลของวัคซีนป้องกันการติดเชื้อถึง 72% และป้องกันการตายป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรง 98% รวมถึงการศึกษาเทียบกับแอสตร้าเซนเนก้า ที่พบบุคลากรติดเชื้อหลังจากได้รับหนึ่งเข็ม พบว่ามีประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อมากถึง 88% แต่เมื่อดูจากการศึกษาแล้วหากมีการฉีดผสมร่วมกันระหว่างซิโนแวคและแอสตราเซนเนกา จะทำให้ประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อ ป้องกันการเสียชีวิต ป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรง มีความสามารถป้องกันโรคได้สูงมากขึ้น ดังนั้นเมื่อมีข้อมูลผลการศึกษายืนยันทำให้ศบค.เห็นชอบที่จะดำเนินการจัดสรรซิโนแวคเพิ่มเติม

และอีกหนึ่งเหตุผลจากเดิมที่เราวางแผนที่จะให้มีการฉีดวัคซีนทั่วประเทศให้ได้ 100 ล้านโดส โดยแผนเดิมที่วางไว้จะมีการเติมวัคซีนเข้ามาจาก 2 ส่วนคือ จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และแอสตราเซเนกา คาดว่ารวมกันจะให้ได้ 10 ล้านโดส แต่จากที่กระทรวงสาธาณสุขรายงานก่อนหน้านี้ว่า จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ไม่สามารถจัดส่งวัคซีนให้ได้ในไตรมาส 4 ตามที่ตกลงกันไว้ ทำให้แผนต้องปรับ เช่นเดียวกันกับแอสตราเซเนกาที่กำลังผลิตและการจัดสรรที่คาดการณ์จะได้ 10 ล้านโดส แต่ลดลงเหลือ 5-6 ล้านโดสต่อเดือน ทำให้มีความสมเหตุสมผลจำเป็นที่จะต้องจัดหาวัคซีนซิโนแวคเข้ามาเสริมในส่วนที่ขาดหายไป

ทั้งนี้จากการศึกษาของโรงเรียนแพทย์ทั้งของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลรามาธิบดี และโรงพยาบาลศิริราชที่มีการระดมฉีดแบบผสมซิโนแวคและแอสตราเซเนกากัน 3 สัปดาห์แทนการฉีดแอสตราเซเนกา 2 เข็มพบว่าประสิทธิภาพช่วยลดอัตราป่วย อัตราความรุนแรงและการเสียชีวิตได้ รวมถึงการระดมฉีดครอบคลุมประชากรจำนวนมากได้เป็นไปตามแผนการกระจายวัคซีน