posttoday

ค้านนิรโทษกรรม ทบทวนการจัดซื้อ ATK ระงับส่งออก “แอสตร้าเซเนก้า”

15 สิงหาคม 2564

เสนอรัฐบาลใช้ กฎหมายความมั่นคงจำกัดจำนวนการส่งออก “แอสตร้าเซเนก้า” ชั่วคราว 5 เดือน เพื่อนำมาใช้ในประเทศก่อน

ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตรองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการทางวิชาการ ม. รังสิต เปิดเผยว่า ประเมินว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะเป็นปัญหาวิกฤติสำหรับประเทศไทยและโลกไปอีกอย่างน้อย 1-2 ปี และมีแนวโน้มที่เชื้อจะกลายพันธุ์มีสายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้นอีกในอนาคต นโยบาย มาตรการและการดำเนินการตอบสนองต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำได้อย่างน่าผิดหวังมากในหลายประเทศ ฉะนั้นการระบาดจะไม่สิ้นสุดได้ภายใน 1-2 ปี

"การระบาดใหญ่อย่างรุนแรงของโควิดเป็นผลจากความไม่รู้ การคอร์รัปชัน การตัดสินใจทางนโยบายผิดผลาดและประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ การตอบสนองต่อการแพร่ระบาดล่าช้า รวมทั้งไม่สามารถบังคับใช้มาตรการสาธารณสุขดีพอของหลายรัฐบาลทั่วโลก" นายอนุสรณ์ กล่าว

ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการออก พ.ร.ก. นิรโทษกรรมบุคลากรทางการแพทย์ที่พ่วงการนิรโทษกรรมความผิดผลาดในการจัดหาและบริหารจัดการวัคซีน หรือ พ่วงการนิรโทษกรรมความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สินและเศรษฐกิจอันเป็นผลของการดำเนินนโยบายที่ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ไม่มีความจำเป็นในการต้องออกกฎหมายใดๆ เพิ่มเติมเพราะกฎหมายเท่าที่มีอยู่ บุคลากรทางการแพทย์ได้รับการปกป้องคุ้มครองจากการทำหน้าที่โดยสุจริตอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องออกทั้ง พ.ร.ก หรือ พ.ร.บ

หากต้องมีการออก พ.ร.ก. หรือ พ.ร.บ. นิรโทษกรรมแบบนี้ ต่อไปการบริหารบ้านเมืองหรือการปฏิบัติราชการก็จะมีการทำงานโดยขาดความรอบคอบและระมัดระวัง และไม่ต้องรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น มีปัญหาการทำงานผิดผลาดอย่างร้ายแรง หรือ ประมาทเลินเล่อ ก็ไม่ต้องรับผิด ไม่ใช่การบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี และ เป็นการบริหารที่ปราศจากหลักคุณธรรม ขาดความรับผิดชอบ

สำหรับ เกิดการตั้งคำถามเรื่องการจัดซื้อ ATK ไม่มีคุณภาพโดยองค์การเภสัชกรรมจนกระทั่ง กลุ่มแพทย์ชนบทออกมาคัดค้าน ATK จากประเทศจีน แต่หากผู้มีอำนาจจัดซื้อโดยใช้งบเงินกู้มาซื้อของไม่มีคุณภาพ จะแก้ปัญหาโควิดไม่ได้ ทั้งที่ การตรวจเชิงรุกด้วย ATK คุณภาพสูงจะเป็นมาตราหนึ่งช่วยสกัดการแพร่ระบาดของโควิดได้ คนที่จัดซื้อของไม่มีคุณภาพต้องรับผิดชอบ

ดร. อนุสรณ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลต้องใช้ กฎหมายความมั่นคงทางวัคซีนเพื่อจำกัดจำนวนการส่งออก “แอสตร้าเซเนก้า” เพื่อนำมาใช้ในประเทศก่อน และเร่งฉีดวัคซีนทุกคนที่อยู่ในดินแดนประเทศไทย ก่อนที่ตัวเลขติดเชื้อรายวันจะพุ่งแตะ 30,000-40,000 คนและผู้เสียชีวิตมากกว่า 500 คนต่อวัน บริษัทแอสตร้าเซเนก้ามีโรงงานผลิตอยู่ในดินแดนประเทศไทย และ รัฐไทยมีอำนาจอธิปไตยสมบูรณ์ในการบังคับใช้กฎหมาย บริษัทต้องส่งมอบวัคซีนตามความต้องการของรัฐไทยเพื่อป้องกันการสูญเสียชีวิตของคนไทย รัฐบาลต้องรีบเจรจากับบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ หากบริษัทเห็นว่า การปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายวัคซีนสำคัญกว่าชีวิตคนไทย รัฐบาลสามารถใช้พระราชบัญญัติความมั่นคงทางวัคซีนเพื่อกำหนดสัดส่วนการส่งออกได้เฉพาะที่เกิน 6 ล้านโดสเป็นเวลาห้าเดือน เพื่อประเทศไทยจะได้มีวัคซีนใช้อย่างน้อย 6 ล้านโดสต่อเดือน แต่การตัดสินใจนี้จะอยู่ที่ นายกรัฐมนตรีผู้เดียว เดิมเป็นอำนาจของรัฐมนตรีสาธารณสุข เนื่องจากมีการออกพระราชกฤษฎีกาโอนอำนาจให้นายกรัฐมนตรี และ หวังว่า นายกรัฐมนตรีจะใช้อำนาจนี้ในการดูแลประชาชนชาวไทยและต้องดำเนินการระงับการส่งออกเกินสัดส่วนเพื่อให้วัคซีนเพียงพอใช้ภายในประเทศภายในเดือนนี้เป็นอย่างช้า รีบตัดสินใจก่อนทุกอย่างจะสายเกินเยียวยา ก่อนที่จะช้าเกินไปและระบบสาธารณสุขและระบบเศรษฐกิจต้องล่มสลายลง