posttoday

รพ.สนามเตือนรัฐบาล "ยารักษาโควิด" กำลังจะขาดแคลน!

02 สิงหาคม 2564

รพ.สนามธรรมศาสตร์เตือนรัฐบาล เร่งให้โรงงานผลิตยาของเอกชนที่มีมาตรฐานสูง ช่วยผลิต "ยาฟาวิพิราเวียร์"เพิ่มจากที่องค์การเภสัชกรรมทำอยู่ ชี้จำนวนผู้ป่วยพุ่งสูงต่อเนื่อง ภายในสัปดาห์หน้าประเทศจะขาดแคลนยา

เพจเฟซบุ๊ก โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความเตือนรัฐบาลว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ที่ใช้รักษาผู้ป่วยโควิด19กำลังจะขาดแคลน เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยอยู่ในระดับเกือบ 2 หมื่นต่อวัน ทำให้ยาไม่เพียงพอโดยมีเนื้อหาดังนี้

วันนี้ (1ส.ค.64) จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังคงมากกว่า 18,000 คน และมีผู้เสียชีวิตรวม 133 คน จำนวนผู้ป่วยรายวันที่จะแตะสองหมื่นคนต่อวัน และมีแนวโน้มว่าจะอยู่แถว ๆ นี้ไปอีกอย่างน้อยหนึ่งหรือสองสัปดาห์ ทำให้จำเป็นต้องคิดและกำหนดแผนการอะไรบางอย่างในระดับประเทศแน่นอน

เมื่อวันก่อน สภาเภสัชกรรมออกแถลงการณ์เตือนมาแล้วว่า ต่อให้องค์การเภสัชกรรมของเราจะผลิต Favipilavir ได้เองแล้ว แต่ในหลายเดือนจากนี้ไป ศักยภาพการผลิตของเราจะอยู่ที่เดือนละ 2-3 ล้านเม็ด

และหากผู้ป่วยใหม่อยู่ในระดับนี้ และมีนโยบายให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาอย่างเร็วตามที่ สธ.กำหนด เราจะต้องใช้ยาถึงวันละหนึ่งล้านเม็ด (ผู้ป่วยคนหนึ่งใช้ยาโดสละ 50 เม็ด) และภายในสัปดาห์หน้า ประเทศจะขาดยา Favi อย่างแน่นอน

ถ้าหากรัฐบาลไม่เร่งดำเนินการให้โรงงานผลิตยาของเอกชนที่มีมาตรฐานสูงในระดับเดียวกันเข้ามาช่วยผลิตยาเพิ่มจากที่องค์การเภสัชกรรมทำอยู่

คำเตือนของสภาวิชาชีพเภสัชกรรมนี้ เป็นการประเมินความต้องการใช้ยาของประเทศที่น่าเชื่อถือมากที่สุด เพราะยา Favi ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสชนิดเดียวที่มีใช้อยู่ในประเทศ ที่ใช้กับผู้ป่วยโควิดทุกๆเม็ดในทุกๆโรงพยาบาล ถูกสั่งจ่ายออกไปโดยสมาชิกของสภาวิชาชีพนี้ทั้งสิ้น

เราหวังว่ารัฐบาลจะตัดสินใจเรื่องนี้อย่างรวดเร็วที่สุด และการตัดสินใจว่าจะไม่ตัดสินใจ ก็จะต้องมีคำอธิบายที่ดีสำหรับประชาชนด้วยนะ เพราะถ้าไม่ได้ทำอะไรเลย ประมาณกลางเดือนสิงหาคม อีกสักสองสัปดาห์ เราก็จะได้ยินเพิ่มว่า นอกจากวัคซีนขาด เตียงขาดแล้ว ยารักษาโควิดยังขาดอีกด้วย

ที่น่าเศร้าก็คือ เรื่องนี้จะเกิดขึ้นในประเทศที่เคยถูกยกย่องว่า มีระบบสาธารณสุขที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลกติดต่อกันมาหลายปีแล้ว

วันนี้เป็นวันแรกของเดือนสิงหาคม เดือนที่สถานการณ์ที่ผู้ป่วยด้วยโรคระบาด จะหนักที่สุดเท่าที่เราเคยเผชิญกันมา ระบบโรงพยาบาลที่พอจะผ่อนสั้นผ่อนยาวและดูแลผู้ป่วยมาได้อย่างสะบักสะบอมในช่วงที่ผ่านมา จะเผชิญกับจำนวนผู้ป่วยที่ถึงจุด Peak ในเดือนนี้แหละตามทฤษฎีระบาดวิทยาทุกทฤษฎี

ดังนั้นเราจึงจะต้องเสริมแนวป้องกัน ขุดสนามเพลาะและเตรียมอาวุธที่เหลืออยู่ในทุกโรงพยาบาลเพื่อรบในสงครามไวรัสที่โหดร้ายที่สุดที่กำลังจะมาถึงตัวพวกเราแล้วให้ได้