ศบค.เผยกทม.-10จังหวัดยังพบคลัสเตอร์โควิดระบาดใหม่
ศบค.เผยกทม.ยังมีคลัสเตอร์เฝ้าระวัง 84 แห่ง ขณะที่อีก 10 จังหวัดพบคลัสเตอร์ใหม่ ผู้ป่วยยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 39,854 ราย อาการหนัก 1,261 ราย , ใส่เครื่องช่วยหายใจ 360 ราย
เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 64 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันดังนี้
-พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,355 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,723 ราย , จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 838 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 784 ราย , ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 10 ราย ประเทศกัมพูชา 9 ราย มาเลเซีย 1 ราย โดยมาจากช่องทางธรรมชาติ
- มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 17 ราย เป็นชาย 7 ราย หญิง 10 ราย อายุระหว่าง 54-85 ปี
-ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 1,466 ราย
-จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 199,264 ราย
-มีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 157,944 ราย เพิ่มขึ้น 3,530 ราย
-เหลือผู้ป่วยรักษาอยู่ 39,854 ราย อาการหนัก 1,261 ราย , ใส่เครื่องช่วยหายใจ 360 ราย
-โฆษกศบค.ระบุว่า กรุงเทพฯ ยังคงเป็นจังหวัดที่มีรายงานการผู้ป่วยใหม่ต่อวันเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 925 ราย รองลงมา คือ นครปฐม 292 ราย, นนทบุรี 232 ราย, สมุทรปราการ 196 ราย และสมุทรสาคร 158 ราย โดยในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังมีคลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวังรวมทั้ง 84 คลัสเตอร์ แต่วันนี้ไม่พบว่ามีรายงานคลัสเตอร์ใหม่
-พื้นที่ในต่างจังหวัดพบว่ามีการรายงานคลัสเตอร์ใหม่เพิ่มขึ้น เช่น
นครปฐม โรงหมู อ.เมือง พบ 8 ราย
สมุทรปราการ หมู่บ้านเอื้ออาทร อ.เมือง พบ 34 ราย และชุมชนเทศบาล ต.บางเมือง พบ 6 ราย
สมุทรสาคร โรงงานอาหารทะเล อ.เมือง พบ 12 ราย และโรงงานปลาแช่แข็ง อ.เมือง พบ 6 ราย
สงขลา บริษัทให้เช่าห้องเย็น อ.เมือง พบ 21 ราย
นครศรีธรรมราช สัมผัสกันในชุมชน อ.เมือง อ.ท่าศาลา อ.พรหมคีรี พบ 83 ราย
ปทุมธานี แคมป์คนงานก่อสร้าง อ.ธัญบุรี พบ 5 ราย
ชลบุรี แคมป์ก่อสร้าง อ.ศรีราชา พบ 6 ราย
ฉะเชิงเทรา โรงงานผลิตคอมเพรสเซอร์ อ.บางน้ำเปรี้ยว พบ 18 ราย
-สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมแล้ว 176,716,036 ราย เสียชีวิต 3,819,565 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 34,321,158 ราย อันดับสอง อินเดีย 29,507,438 ราย อันดับสาม บราซิล 17,413,996 ราย อันดับสี่ ฝรั่งเศส 5,740,665 ราย และอันดับห้า ตุรกี 5,330,447 ราย โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 79


