posttoday

ศบค.แจงปมกระจายวัคซีน ยัน"กลุ่มเสี่ยง"ลง"หมอพร้อม"แล้วได้ฉีดวัคซีนแน่

28 พฤษภาคม 2564

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. แจงปมนโยบายกระจายวัคซีน เผย แผนมีการปรับตามความเหมาะสม ย้ำไม่ยกเลิก หมอพร้อม กลุ่มคนอายุเกิน 60 ปี - 7 โรคเรื้อรัง ที่ลงทะเบียน สำเร็จไม่ต้องกังวล จะได้รับการฉีดวัคซีนกันโควิด-19 ตามวันวลาที่กำหนดแน่นอน

เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 64 พ.ญ. อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ชี้แจง เกณฑ์กระจายวัคซีนและรูปแบบการลงทะเบียน ว่า รัฐบาลได้ยกให้การฉีดวัคซีนโควิด-19 ถือเป็นวาระแห่งชาติ โดยมีเป้าหมายที่สำคัญอันดับแรก คือ ลดอัตราการป่วย-ตาย ดังนั้นเป้าหมายกลุ่มแรกของผู้ที่จะได้ลงทะเบียนรับวัคซีน ต้องมุ่งไปที่กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่หากติดเชื้อแล้วมีโอกาสที่จะป่วยรุนแรงและเสียชีวิต นั่นคือ ผู้มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป ตลอดจนผู้มี 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง อันดับถัดมา คือการปกป้องระบบสุขภาพของประเทศ โดยมุ่งไปที่บุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขด่านหน้าทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงต่อการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ เมื่อหลักการกระจายวัคซีนเป็นแบบนี้ ดังนั้นการบริหารจัดการวัคซีนในระยะแรก ที่เรามีวัคซีนจำกัดช่วงก.พ.-พ.ค. จึงเน้นการกระจายวัคซีนไปกลุ่มบุคลากรแพทย์ กลุ่มผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว และมีการสำรองวัคซีนสำหรับควบคุมพื้นที่เสี่ยงที่มีการแพร่ระบาดฉุกเฉิน

อย่างไรก็ดี ได้มีการเสนอข้อมูลเพิ่มเติมจากบางจังหวัดที่เห็นว่าหลักการจัดสรรวัคซีนในระยะแรกที่ให้กับบุคลากรแพทย์ ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและ 7 กลุ่มโรคเสี่ยง อาจจะไม่สอดคล้องกับบริบทในแต่ละพื้นที่อย่างแท้จริง เช่น บางจังหวัดที่เป็นจังหวัดท่องเที่ยว หรือจังหวัดที่อยู่ติดกับชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน อีกทั้งบางจังหวัดที่เปิดให้มี Local Quarantine หรือ State Quarantine จึงได้เสนอแนะแนวทางเข้ามาที่ ศบค.เพื่อขอปรับการจัดสรรวัคซีนให้มีความสอดคล้องกับบริบทของในจังหวัดนั้นๆ

ดังนั้น เมื่อเข้าสู่ระยะที่ไทยมีวัคซีนมากขึ้นเช่นในปัจุบันนี้ จึงได้วางเป้าหมายที่จะฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากร 70% ของประเทศ หรือคิดเป็น 50 ล้านคน (ไม่นับเด็ก และหญิงตั้งครรภ์) รวมแล้วต้องใช้วัคซีน 100 ล้านโดส โดยต้องฉีดเข็มแรกให้แล้วเสร็จภายในก.ย.64 และเข็มสอง ภายในธ.ค.64 เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่

พ.ญ. อภิสมัย กล่าวอีกว่า เมื่อแผนระยะสองมา การจัดสรรวัคซีนตามพื้นที่นั้น กรมควบคุมโรคจัดสรร 70% ของประชากรแต่ละจังหวัด คือ จัดสรรอย่างเท่าเทียมกัน แต่มีหลายจังหวัดเสนอว่า พื้นที่ระบาดน้อยทำไมได้วัคซีนมาก เป็นไปได้หรือไม่ว่าขอโควต้าวัคซีนมาใช้กับจังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยงสูงก่อนได้หรือไม่ ก็ฟังดูมีเหตุผล แต่จังหวัดที่ติดเชื้อน้อยก็บอกว่า เหตุที่จังหวัดมีผู้ติดเชื้อน้อยเพราะมีการทำงานหนัก มีมาตรการเข้มข้น ทำให้ควบคุมการระบาดได้ดี ดังนั้นจึงควรได้การจัดสรรวัคซีนตามโควต้าที่ควรจะได้หรือไม่ ซึ่ง ศบค.ต้องรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกพื้นที่ ที่มีบริบท และความสำคัญแตกต่างกัน ดังนั้น ศบค.จึงได้ปรับเปลี่ยนแผนการจัดสรรวัคซีนให้ตามข้อเสนอแนะของแต่ละพื้นที่ที่มีเข้ามา เพื่อให้ตรงกับสถานการณ์มากขึ้น ทั้งการพิจารณาตามพื้นที่ และบุคคลกลุ่มเสี่ยง

พ.ญ. อภิสมัย กล่าวอีกว่า ยืนยันว่า ระบบ "หมอพร้อม" ไม่ได้มีการยกเลิก แต่เปิดช่องทางให้ลงทะเบียนเข้าถึงการฉีดวัคซีน และจองวัคซีนมากขึ้น เหมาะสมกับบริบทแต่ละพื้นที่ ขอย้ำว่า กลุ่มคนมีอายุเกิน 60 ปี และกลุ่มมีโรคประจำตัว 7 โรคเรื้อรัง ที่มีการลงทะเบียนไว้ตั้งแต่แรก ลงทะเบียนสำเร็จ ระบบตอบรับเรียบร้อยแล้ว ท่านไม่ต้องกังวล จะได้ฉีดวัคซีนตามที่หมอพร้อมได้นัดหมาย ตามสถานที่จะฉีดที่ท่านได้ลงทะเบียนอย่างแน่นอน ไม่จำเป็นต้องไปลงทะเบียนระบบอื่นๆ เพราะชื่อของท่านอยู่ในระบบแล้ว แต่ถ้าลงทะเบียนไม่สำเร็จ คือไม่มีวันนัด สถานที่ กรณีอยู่ กทม. ก็ไปลงกับ กทม. ได้

ศบค.แจงปมกระจายวัคซีน ยัน"กลุ่มเสี่ยง"ลง"หมอพร้อม"แล้วได้ฉีดวัคซีนแน่