posttoday

ศาลจำคุก15วันปรับ1.5หมื่น4จำเลยก๊วนปาร์ตี้พริตตี้วาวา

27 พฤษภาคม 2564

ศาลพิพากษาจำคุก 15 วันปรับ 1.5 หมื่น ก๊วนงานปาร์ตี้พริตตี้วาวา 4 คน ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ รับสารภาพรอลงอาญาไว้ 1 ปี

ที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ถ.แจ้งวัฒนะ วันที่ 27 พ.ค.64 พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลแขวง 1 ได้ยื่นฟ้อง นายฤทธิ์เดช พรหมขุนทอง อายุ 44 ปี, นายปิติเลิศ อวยพร อายุ 41 ปี, นายเชิดศักดิ์ ศรัณพิพัฒน์ อายุ 42 ปี, ร.ต.อ.ธนพัฒน์ รุ่งเรืองสาคร อายุ 27 ปี เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฝ่าฝืนพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มาตรา 9,18 ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ. ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ข้อ 5 ลงวันที่ 25 มี.ค.63 ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ลงวันที่ 25 มี.ค.63 ประกาศเรื่องการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 1) ลงวันที่ 28 เม.ย.63 ประกาศเรื่องการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 9) ลงวันที่ 6 ม.ค.64 โดยขยายระยะวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปอีกระยะหนึ่งให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. - 28 ก.พ.64 พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 34 (6), 51 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91

ตามฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 22 -23 ก.พ.64 เวลาประมาณ 05.00 น. ต่อเนื่องกัน จำเลยทั้งสี่กับพวกอีก 21 คน ซึ่งส่วนหนึ่งแยกดำเนินคดี และที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง และที่ยื่นฟ้องเป็นจำเลยที่ 1 - 4 ในคดีหมายเลขแดง อ.668/2564 และจำเลยที่ 1 - 4 ในคดีหมายเลขแดง อ.847/2564 ขอศาลแขวงพระนครเหนือนี้ซึ่งศาลมีคำพิพากษาลงโทษไปแล้ว ได้ร่วมกันจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ที่บ้านเลขที่ 402/121 ซ.พหลโยธิน 32 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. และร่วมรับประทานอาหาร ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเต้นรำ รวมทั้งมีการว่าจ้างพนักงานหญิงบริการ หรือพริตตี้ มาดูแลผู้ร่วมงานชงสุราภายในงานเลี้ยงสังสรรค์ อันเป็นการรวมกลุ่มกันของคนจำนวนมากถึง 25 คนในห้องโถงชั้นที่ 2 ของบ้านที่เกิดเหตุซึ่งเป็นที่ปิดมิดชิดอันเป็นการร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกันในสถานที่แออัดในเขตพื้นที่ที่ได้มีการประกาศกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉิน อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และยังมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แจกจ่ายยาเสพติดให้ผู้มาร่วมงานเพื่อเสพซึ่งทำให้การควบคุมสติลดลงจนไม่มีการรักษาระยะห่างระหว่างกัน และไม่มีการสวมหน้ากากอนามัยอันเป็นการกระทำการซึ่งอาจก่อให้เกิดโรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดแพร่ออกไป อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย การกระทำของจำเลยทั้งสี่เป็นการกระทำโดยรู้สำนึกแต่ขาดความรับผิดชอบต่อส่วนรวมในการป้องกันและควบคุมโรคไม่ให้โรคระบาดแพร่ออกไปในวงกว้าง ขอศาลลงโทษสถานหนัก

ชั้นพิจารณา จำเลยทั้งสี่ให้การรับสารภาพตลอดข้อหา

โดยศาลพิเคราะห์แล้ว พิพากษาว่า จำเลยทั้งสี่มีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ มาตรา 34 (6), 51 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาตรา 9, 18 ซึ่งการกระทำของจำเลยทั้งสี่เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป โดยจำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง

ความผิดฐานร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมและมั่วสุมในสถานที่แออัด ให้จำคุกคนละ 15 วัน และปรับคนละ 10,000 บาท, ฐานร่วมกันกระทำการซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะไม่ถูกสุขลักษณะอันอาจเป็นเหตุให้โรคระบาดแพร่ออกไป ให้ปรับคนละ 5,000 บาท

รวมจำคุกจำเลยที่ 1-4 คนละ 15 วัน และปรับคนละ 15,000 บาท ทั้งนี้ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสี่ เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน เห็นควรให้โอกาสจำเลยกับตัวเป็นพลเมืองดีต่อไป โทษจำคุกให้รอการลงอาญามีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีดังกล่าวเป็นข่าวเมื่อเจ้าของบ้านปาร์ตี้และผู้ร่วมงานจ้าง น.ส.วิชญาพร วิเศษสมบัติ หรือพริตตี้วาวา ไปเอนเตอร์เทน แต่ภายหลังเกิดเหตุพริตตี้วาวาได้เสียชีวิต โดยคดีอาญาการเสียชีวิตของพริตตี้วาวา มีการกล่าวหานายทรงศักดิ์ หรือกอล์ฟ รสมาลา อายุ 41 ปี กทม., นายสารพล หรือโอม เกตุงาม อายุ 27 ปี จ.พระนครศรีอยุธยา และนายธนะพันธ์ หรือปอ อุทัยทัศน์ อายุ 38 ปี จ.ชุมพร ซึ่งคดียังอยู่ในชั้นสอบสวน