posttoday

สถานกักกัน ตม.บางเขนติดโควิด 395 ราย สธ.ยันไม่แพร่เชื้อสู่ชุมชน

23 มีนาคม 2564

สธ.เผยการตรวจเชิงรุกสถานกักกัน ตม.บางเขนพบติดโควิดรวม 395 ราย ยืนยันควบคุมโรคได้แล้วไม่แพร่เชื้อสู่ชุมชน ขอประชาชนวางใจได้

นายแพทย์เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวถึง กรณีสถานกักกันตำรวจตรวจคนเข้าเมืองบางเขน กรุงเทพมหานครที่รับผู้ลักลอบเข้าเมืองแบบผิดกฎหมายจากทั่วประเทศมาดำเนินคดี ซึ่งได้ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยระบุว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับกรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปคัดกรองเชิงรุกในระหว่างวันที่ 18-20 มี.ค.64 โดยตรวจผู้ต้องกักและเจ้าหน้าที่ทุกคนรวม 1,556 ราย พบติดเชื้อเพิ่มอีก 318 ราย คิดเป็นร้อยละ 20.4 ทำให้กลุ่มก้อนนี้มีผู้ติดเชื้อสะสม 395 ราย

ทั้งนี้สถานกักกันตำรวจตรวจคนเข้าเมืองบางเขน ได้เริ่มตรวจพบผู้ต้องกักติดเชื้อโควิดเมื่อวันที่ 11 มี.ค.64 ตรวจพบรวม 9 ราย เป็นผู้ต้องกักชาวเนปาล 1 ราย ,ผู้ต้องกักแรกรับที่ย้ายมาจากสุไหงโกลก 6 ราย และผู้ต้องกักรายเดิม 2 ราย วันที่ 13 มี.ค. ตรวจพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 52 ราย เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกลุ่มสุไหงโกลก 40 ราย และผู้ต้องกักแรกรับติดเชื้อ 12 ราย ส่วนวันที่ 15 มี.ค. พบผู้ติดเชื้อที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของผู้ติดเชื้อชาวเนปาลอีก 16 ราย รวมทั้งหมด 77 ราย

สำหรับการป้องกันควบคุมโรค ได้แยกผู้ต้องกักติดเชื้อออกจากผู้อื่น งดการย้ายผู้ต้องกักระหว่างห้องงดรับผู้ต้องกักใหม่เข้ามา และประสานงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จัดตั้งโรงพยาบาลสนามในพื้นที่สโมสรตำรวจ จำนวน 120 เตียง ซึ่งสามารถขยายได้ 250 เตียง และเร่งฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้เจ้าหน้าที่ที่มีความเสี่ยงสัมผัสผู้ต้องกัก โดยฉีดแล้วมากกว่า 70 คน กรมควบคุมโรควางแผนดำเนินการตรวจซ้ำใน 7 วันและ 14 วันต่อไป

ทั้งนี้ ผู้ที่ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีอาการ การให้อยู่โรงพยาบาลสนามถือว่ามีความเหมาะสม เมื่อครบระยะเวลาก็ไม่สามารถแพร่โรคต่อได้ จะผลักดันกลับประเทศตามกฎหมาย

“การจำกัดพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นการขีดวงไม่ให้เชื้อแพร่กระจายไปยังคนอื่น ระบบการดูแลผู้ต้องกักถือเป็นพื้นที่เฉพาะ ไม่มีการออกไปสู่ชุมชน ขอให้วางใจ และย้ำว่าการลักลอบเข้าเมืองมีความผิดตามกฎหมาย และเสี่ยงนำโรคเข้ามา ขอให้ทุกคนช่วยกันเป็นหูเป็นตาก็จะช่วยป้องกันโรค” นายแพทย์เฉวตสรรกล่าว