posttoday

ตำรวจป่าไม้ลุยค้น17จุดน่านกวาดล้างแก๊งมอดไม้

19 มีนาคม 2564

ตำรวจป่าไม้เปิดยุทธการ “พิทักษ์เวียงน่าน” ลุยค้น 17 จุด กวาดล้างแก๊งมอดไม้ ยึดเลื่อยยนต์พร้อมใบเลื่อยอื้อ

เมื่อวันที่ 19 มี.ค.64 พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผบก.ปทส. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อริยพล สินสอน รอง ผบก.ปทส. พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปทส. นำกำลัง เจ้าหน้าที่ กก.4 บก.ปทส. สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน และเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ เปิดปฏิบัติการ “พิทักษ์เวียงน่าน” นำหมายค้นเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 17 จุด ครอบคลุมพื้นที่ 15 อำเภอของจังหวัดน่าน เพื่อสกัดกั้นกลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้โดยใช้เลื่อยโซ่ยนต์ ผู้ค้าเลื่อยโซ่ยนต์และกลุ่มนายทุนที่นำเข้าเลื่อยโซ่ยนต์เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม้ได้รับอนุญาต จนสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้จำนวน 17 คน พร้อมตรวจยึดเลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 69 เครื่อง และ แผ่นบังคับโซ่(บาร์) จำนวน 293  ใบ

ตำรวจป่าไม้ลุยค้น17จุดน่านกวาดล้างแก๊งมอดไม้

พล.ต.ต.พิทักษ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีนโยบายป้องปรามและแก้ไขปัญหาการทำลายป่า การทำไร่เลื่อนลอย การตัดไม้ บุกรุกพื้นที่ป่า ซึ่งเป็นต้นตอของปัญหาป่าต้นน้ำเสื่อมโทรม โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.น่าน ที่พบมีป่าต้นน้ำเสื่อมโทรม (ภูเขาหัวโล้น) หลายแห่งจนเกิดปัญหาภัยแล้ง อุทกภัย และดินโคลนถล่มตามมา ทางศูนย์ปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปทส.ตร.) จึงได้สั่งการให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เร่งดำเนินการป้องกันปราบปรามการลักลอบ ตัดไม้โดยผิดกฎหมาย จนนำไปสู่การเปิดยุทธการดังกล่าว โดยมีเป้าหมายหลักของการกวาดล้างในครั้งนี้เป็น กลุ่มผู้ครอบครองและลักลอบนำเข้าเลื่อยโซ่ยนต์กำลังสูงที่มีแผ่นบังคับโซ่ขนาดความยาวเกิน 12 นิ้ว ขึ้นไป โดยไม่ได้รับอนุญาต และเนื่องจากเลื่อยโซ่ยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถใช้ในการตัดไม้ทำลายป่าได้ในเวลาอันรวดเร็ว ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการตัดวงจรการตัดไม้ บุกรุกพื้นที่ป่า

ตำรวจป่าไม้ลุยค้น17จุดน่านกวาดล้างแก๊งมอดไม้

พล.ต.ต.พิทักษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้กระทำผิดที่ถูกจับกุมได้ในวันนี้ทั้งหมด 17 คน จะถูกดำเนินคดีในข้อหา “มีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,รับซ่อมแซมเลื่อยโซ่ยนต์เป็นธุรกิจเพื่อสินจ้างโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามความผิด พ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ.2545 และ ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของ อันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 “ ก่อนนำตัวส่งดำเนินคดีสถานีตำรวจพื้นที่ตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมกับเตรียมขยายผลไปยังกลุ่มนายทุน กลุ่มผู้ลักลอบนำเข้าเลื่อยโซ่ยนต์โดยไม่ได้รับอนุญาต ที่เหลือต่อไป