posttoday

พี่สาว"วันเฉลิม" ยื่นหลักฐานให้อัยการสอบคดีน้องชาย หายตัว โวย 9 เดือนคดีไม่คืบ

19 มีนาคม 2564

พี่สาว”วันเฉลิม” ยื่นหลักฐานสำคัญ ต่ออัยการสูงสุด ขออัยการมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนร่วมดีเอสไอทำคดีการหายตัวไปของน้องชาย โวย 9 เดือนคดีไม่คืบ

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 64 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสนามวัฒนธรรมและ น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือ ต้าร์ เข้ายื่นหลักฐานสำคัญให้อัยการสูงสุด เพื่อขอให้สอบสวนคดีการหายตัวไปของนายวันเฉลิม ระหว่างอาศัยอยู่ในประเทศกัมพูชา โดยมีนายกฤษฎา กสานติกุล รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นผู้รับหนังสือ

น.ส สิตานัน กล่าวว่า ตนทราบมาว่าอัยการสูงสุดได้ทำหนังสือแจ้งไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ว่า นายวันเฉลิมไม่ได้อยู่ในประเทศกัมพูชา อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุและทราบว่าน้องชายหายไปตนและครอบครัวได้เดินทางไปหาหลักฐานจากคอนโดมีเนียมซึ่งน้องชายพักอาศัย โดยได้รับข้อมูลจากทั้งพยานบุคคลและภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งทางดีเอสไอได้ถามหาหลักฐานที่ครอบครัวได้รับมา ในขณะที่อัยการและดีเอสไอเป็นหน่วยงานของรัฐซึ่งมีอุปกรณ์และเครื่องที่จะช่วยตามหาคนที่หายไป แต่กลับมาถามหาหลักฐานจากตนซึ่งเป็นประชาชน อย่างไรก็ตามทางการกัมพูชาได้ให้ข้อมูลโดยยืนยันว่า นายวันเฉลิม ไม่ได้หายตัวไปขณะอาศัยในประเทศกัมพูชาและปฎิเสธการอยู่ของน้องชายตนในช่วงระหว่างวันที่ 2มิ.ย -6 มิ.ย.มีการกลบเกลื่อนร่องรอยทุกอย่าง แต่ตนได้เคยส่งเอกสารที่รวบรวมได้ให้กับศาลชั้นต้นแห่งกรุงพนมเปญจำนวน 177 หน้า แต่ศาลไม่ได้อ่านโดยระบุว่า ให้ส่งผ่านมาทางทนายความ จนขณะนี้เวลาผ่านไปนาน 9 เดือน แต่คดีไม่มีความคืบหน้า โยนกันไปมา โดยเฉพาะกลไกเจ้าหน้าที่รัฐของไทย กลับไม่มีความพยายามในการแสวงหาพยานหลักฐาน ใดๆเลย

น.ส.สิตานัน กล่าวว่า สำหรับหลักฐานที่มียื่นให้อัยการ มีรูปภาพ พาสปอร์ต บัญชีเงินฝากธนาคาร และหลักทางราชการที่รัฐบาลทราบอยู่แล้วว่า นายวันฉลิมอยู่ที่ไหน ที่ผ่านมาเราหาหลักฐานเองทุกอย่าง จึงอยากได้ความยุติธรรมคืน เรามีพยานหลักฐานซึ่งเป็นภาพกล้องวงจรปิด จากคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในกัมพูชา และมีภาพทะเบียนรถยนต์ที่มีกลุ่มบุคคลต้องสงสัยไปอยู่หน้าที่พักของนายวันเฉลิม ที่กัมพูชา ซึ่งพยานหลักฐานเหล่านี้ ทางการกัมพูชา ตรวจสอบแล้วไม่พบว่า มีทะเบียนรถยนต์ดังกล่าวในสารบบของประเทศกัมพูชาจึงต้องการให้เจ้าหน้าที่ทางการไทย ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงการหายตัวไปของนายวันเฉลิม ซึ่งที่ผ่านมา นายวันเฉลิม ไม่เคยมีคู่ขัดแย้งกับบุคคลใดมาก่อน นอกจากมีความคิดเห็นต่างทางการเมืองกับรัฐบาลไทยเท่านั้น”น.ส.สิตานันท์ กล่าว

นางสาวสิตานัน ยังกล่าวอีกว่า เหตุผลที่ต้องเข้าพบ อัยการฯเพื่อขอให้สำนักงานอัยการสูงสุดรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเกี่ยวกับการสูญหายของ นายวันเฉลิม และให้อัยการสูงสุดมีคำสั่งให้พนักงานอัยการสอบสวน หาข้อเท็จจริงร่วมกับดีเอสไอ