ศบค.เผยหลายจังหวัดทยอยฉีดวัคซีนโควิด ยังไม่พบผลข้างเคียงรุนแรง

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวว่า ภาพรวมการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เมื่อวันที่ 28 ก.พ. เป็นไปด้วยดี โดยขณะนี้มีการฉีดไปแล้ว 4 จังหวัด ประกอบด้วย นครปฐม นนทบุรี สมุทรสาคร และสมุทรปราการ 319 ราย ในจำนวนนี้มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข และตนรวมอยู่ด้วย ซึ่งยังไม่พบผลข้างเคียงที่รุนแรง และขอบอกว่าการฉีดวัคซีนโควิด-19 เจ็บน้อยกว่าวัคซีนอื่นๆ ที่ตนเคยฉีดมา

สำหรับแผนกระจายวัคซีนล็อตแรกระหว่างวันที่ 27-28 ก.พ. ได้กระจายไปใน 13 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ 3,520 โดส ตาก 5,000 โดส นครปฐม 3,560 โดส ราชบุรี 2,520 โดส สมุทรสงคราม 2,000 โดส ปทุมธานี 8,000 โดส สมุทรปราการ 6,000 โดส กทม. 33,600 โดส สมุทรสาคร 15,040 โดส ขณะที่ภูเก็ต นนทบุรี ชลบุรี และอ.เกาสมุย สุราษฎร์ธานี จะได้รับวัคซีนในวันที่ 1 มี.ค.

อย่างไรก็ตาม แผนการฉีดวัคซีนของสมุทรสาครที่จะได้ทั้งสิ้น 3 หมื่นกว่าโดส จะฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ 8 พันกว่าโดส อสม. 2 พันกว่าโดส เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ติดเชื้อ 2 พันกว่าโดส ผู้มีโรคประจำตัวกว่า 1.6 หมื่นโดส และประชาชนทั่วไป 5 พันกว่าโดส

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า แม้จะมีการกระจายวัคซีนแล้ว แต่ไม่ใช่ว่าจะป้องกันโรคได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้น มาตรการสุขอนามัยส่วนตัวจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ วันนี้แม้วัคซีนจะมาแล้ว แต่ในประเทศที่ฉีดกันแล้วก็ยังต้องใช้หน้ากากอยู่ เนื่องจากการวัคซีนจะช่วยให้เราไม่ป่วยหนัก แต่ไม่ได้ลดการแพร่เชื้อ เพราะเชื้อยังอยู่ในตัวคน นี่คือ สิ่งที่ยังจำเป็น ตนเองแม้จะฉีดวัคซีนมาแล้วก็ยังต้องใส่หน้ากากอยู่ ฝากทุกคนช่วยกัน เรื่องนี้คือเรื่องสำคัญของประเทศที่เราจะผ่อนคลายไปด้วยกัน