"ผบ.ตร."ชี้ม็อบบางส่วนไม่ยอมยุติ-ก่อเหตรุนแรง จนท.ต้องเข้าจับกุม

เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 64 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ระหว่างเข้าเยี่ยมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการดูแลความสงบในการชุมนุมของกลุ่มราษฎรเมื่อช่วงค่ำวันที่ 13 ก.พ.64

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า เท่าที่ติดตามสถานการณ์กลุ่มผู้ชุมนุมขอเจ้าหน้าที่ว่าจะส่งผู้แทนไปไหว้ศาลหลักเมืองแล้วจะยุติการชุมนุม เจ้าหน้าที่ได้มีการจัดอำนวยความสะดวกให้ หลังจากนั้นมีการประกาศยุติการชุมนุมไปแล้ว เชื่อว่าผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งก็ทราบอยู่แล้วว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่ก็มีผู้ชุมนุมอีกส่วนหนึ่งก่อเหตุความรุนแรงขึ้นมา แล้วผลก็ออกมาตามที่เห็น มีการทำสงครามข่าวสารโจมตีกันไปๆมาๆ

"ผมเรียนว่าจะดูเรื่องนี้ก็ต้องดูตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะเกิดเป็นเหตุเป็นผลกันมา ถ้ายุติก็จบ แต่พอมาก่อเหตุกันอย่างนี้เจ้าหน้าที่ก็ต้องใช้มาตรการในการหยุดการก่อเหตุร้าย ต้องจับกุม ผมต้องฝากพี่น้องประชาชนด้วยว่ามันมีเหตุมีผลต่อเนื่องกันมา ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ จะไปตีกันมันไม่ใช่ ถ้าจะมีการชุมนุมอย่างแรกท่านต้องรู้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันเขาห้ามจัดกิจกรรมในพื้นที่ควบคุมสูงสุด เจ้าหน้าที่ก็ประกาศห้าม แต่ว่าเราก็ไม่ถึงขนาดจะใช้กำลังจับกันตรงนั้น ก็บอกไปแล้วว่าอย่าถึงขนาดทำร้ายเจ้าหน้าที่ ซึ่งเมื่อวานถ้าเลิก แล้วยุติตามที่คุยกันมันก็จบไปแล้ว แต่ไม่จบอย่างนั้น"

"ผมยืนยันว่าข้อเท็จจริงต้องดูตั้งแต่ต้นจนจบอย่าดูเป็นท่อนๆ แล้วไปทำสงครามข่าวสารโจมตีกัน มีนำภาพไปแล้วบอกว่าคนนี้โดนกระสุนยางยิง ซึ่งมันไม่ใช่ เมื่อวานไม่มีใครใช้เลยกระสุนยาง ไม่มีใครใช้แก๊สน้ำตา เรามีอุปกรณ์ แต่เราก็ไม่ได้ใช้ เราใช้เท่าที่จำเป็น เราจับกุมผู้ก่อเหตุ ไม่ใช่ไปเขียนว่า ทำร้ายประชาชน ถ้าไม่มีเหตุใครจะไปจับ จะให้ยืนเฉยๆ เอาอิฐตัวหนอนแล้วทุ่มกันแบบนั้นหรืออย่างไร คนก็มีหลายฝั่ง ประชาชนอีกฝั่งหนึ่งก็มองว่าตำรวจอ่อนแอ ไม่ทำอะไร ปล่อยให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นมา" ผบ.ตร.กล่าว

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า ขอฝากประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่จะชุมนุมทั้งหลาย ให้ไปคุยกันให้รู้เรื่องด้วย เราไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุแบบนี้ ขอให้เข้าใจ แล้วคนที่ทำผิดทุกคนต้องถูกดำเนินคดี แล้วถ้าใครเห็นว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินเลยก็มาแจ้งความร้องทุกข์ ผู้ที่ถูกเจ้าหน้าที่จับไป เราก็มีระบบการตรวจร่างกายทุกคนอยู่แล้ว ตรวจร่างกายต่อหน้าแพทย์และทนายความ ใครที่เห็นว่าไม่ถูกไม่ชอบก็มาว่ากัน ก็ว่าไปตามกฎหมาย และไม่ใช่คดีแรกที่ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดแบบนี้ ใครที่ทำก็มีความผิดสะสมไปเรื่อยๆ ก็ไปว่ากันในชั้นศาลว่าจะว่าอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามถึงแฮชแท็คในทวิตเตอร์ขณะนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ก่อเหตุ ส่วนผู้ก่อเหตุจะไปอ้างว่าทำหน้าที่อะไรก็เป็นเรื่องที่ผู้ก่อเหตุอ้าง มันอยู่ที่ว่าใครก่อเหตุ ท่านก่อเหตุหรือไม่ หรือจะอ้างว่าทำหน้าที่อะไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าท่านไม่ได้ก่อเหตุท่านก็ไม่ผิด ถ้าก่อเหตุท่านก็ผิด หากเป็นความผิดซึ่งหน้าที่เขาจับก็ต้องมีพยานหลักฐานก็ว่ากันมา ซึ่งเป็นรายละเอียดทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องแจ้งข้อหาอยู่แล้ว ผู้ที่ถูกกล่าวหาต้องรู้รายละเอียดข้อเท็จจริงที่เจ้าหน้าที่แจ้ง ส่วนเรื่องการพกพาอาวุธในเบื้องต้นยังไม่พบ

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าถึงไม่ใช่แพทย์จริงแต่การกระทำของเจ้าหน้าที่เกินกว่าเหตุหรือไม่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า "ผมยืนยันว่าเขาจับผู้ก่อเหตุ แล้วถามว่าการเข้าทำการจับกุมเกินกว่าเหตุหรือไม่ก็ต้องดูกันไปว่าทำไมถึงทำแบบนั้น เพราะอะไรมันมีที่มาที่ไป ถ้าท่านคิดว่าเกินกว่าเหตุก็มาว่ากันว่าเกินอย่างไร"