posttoday

การเคหะฯครบ48ปีผู้ว่าฯเผยสร้างที่อยู่อาศัยไปกว่า7แสนหน่วย

12 กุมภาพันธ์ 2564

ครบ48ปี การเคหะแห่งชาติ พัฒนาที่อยู่อาศัยไปแล้วกว่า 742,975 หน่วย ชูวิสัยทัศน์ องค์กรสมรรถนะสูง ให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวในการแถลงข่าวผลการดำเนินงานเนื่องในโอกาสครบรอบ 48 ปี การเคหะแห่งชาติ ว่า การเคหะแห่งชาติ (กคช.) ภายใต้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้พัฒนาที่อยู่อาศัยไปแล้วกว่า 742,000 หน่วย โดยดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ “การเคหะแห่งชาติ เป็นองค์กรสมรรถนะสูง ในการพัฒนา ที่อยู่อาศัย ชุมชน และเมือง เพื่อให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยและคุณภาพชีวิตที่ดี” พร้อมขับเคลื่อนโครงการสำคัญตอบสนองนโยบายรัฐบาล และกระทรวง พม. เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยที่อยู่ในชุมชนของการเคหะแห่งชาติมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกมิติ

ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2519 จนถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2563 ได้พัฒนาที่อยู่อาศัยรวมทั้งสิ้นจำนวน 742,975 หน่วย ประกอบด้วย โครงการบ้านเอื้ออาทร จำนวน 280,567 หน่วย โครงการเคหะชุมชน จำนวน 142,103 หน่วย โครงการเคหะชุมชน และบริการชุมชน จำนวน 27,317 หน่วย โครงการแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดทั้งปรับปรุงชุมชนที่ดินเดิมและจัดหาที่อยู่อาศัย จำนวน 233,964 หน่วย โครงการพิเศษและบริการชุมชน จำนวน 3,980 หน่วย โครงการเคหะข้าราชการ จำนวน 50,708 หน่วย โครงการแก้ไขปัญหาวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 258 หน่วย โครงการที่พักอาศัยสำหรับมหาวิทยาลัยราชภัฏ จำนวน 2,374 หน่วย โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้ จำนวน 845 หน่วย โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง จำนวน 334 หน่วย และโครงการอาคารเช่า 525 หน่วย นับเป็นความภาคภูมิใจในภารกิจด้านพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชนที่มีรายได้น้อยและปานกลางทั่วประเทศ

สำหรับการในปี 2563 ที่ผ่านมา การเคหะแห่งชาติได้มีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID – 19 ทั้งด้านการเงิน ได้แก่ พักชำระค่าเช่าซื้อ 3 เดือน ปลอดค่าเช่า 3 เดือน สำหรับลูกค้าอาคารเช่ารายย่อย รวมทั้งลูกค้าที่เช่าแผงตลาด และร้านค้ารายย่อย ปลอดค่าเช่าสำหรับผู้เช่ารายย่อยที่ทำสัญญาเช่ากับผู้เช่าเหมาอาคาร ลดค่าเช่า 50% และพักชำระ เงินมัดจำ/เงินจอง ส่วนด้านสังคม การเคหะแห่งชาติได้ลงพื้นที่ชุมชนเพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจถึงมาตรการป้องกันตนเองให้กับผู้อยู่อาศัย รวมถึงการร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนจัดตั้งโรงครัวในชุมชน จัดทำข้าวกล่อง ปรุงสุก พร้อมจัดหาเครื่องอุปโภค-บริโภค และของใช้จำเป็นให้กับผู้อยู่อาศัยเพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายเบื้องต้นของผู้อยู่อาศัย

ส่วนในปี 2564 การเคหะแห่งชาติได้กำหนดมาตรการช่วยเหลือลูกค้าใหม่ผ่าน 3 รูปแบบโปรโมชั่น เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2564 ได้แก่ โปรโมชั่นดอกเบี้ยเช่าซื้อ 0% เป็นเวลา 1 ปี สำหรับลูกค้าที่สถาบันการเงินปฏิเสธสินเชื่อสามารถยื่นขอสินเชื่อ จากโครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย หรือทำสัญญาเช่าซื้อโดยตรงกับการเคหะแห่งชาติ พร้อมรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ โปรโมชั่นลดราคา (Shock Price) โครงการบ้านเอื้ออาทร 56 โครงการ กำหนดราคาขายเงินสดหน่วยละ 250,000 – 520,000 บาท และโปรโมชั่นเช่าราคาพิเศษ 999 – 1,200 บาทต่อเดือนในปีแรก จำนวน 84 โครงการที่การเคหะแห่งชาติกำหนด นอกจากนั้นยังมีการให้ความช่วยเหลือลูกค้าปัจจุบันในปี 2564 ได้แก่ การลดอัตราดอกเบี้ยค่าเช่าซื้อที่อยู่อาศัย การลดค่างวดเช่าซื้อที่อยู่อาศัยโดยขยายเวลาการผ่อนชำระ การปรับโครงสร้างหนี้ลูกค้าเช่าซื้อที่ค้างชำระค่าเช่าซื้อ และการให้ส่วนลดค่างวดเช่าซื้อ 1,000 บาท สำหรับลูกค้าเช่าซื้อที่มีประวัติชำระดี ไม่มีหนี้ค้างชำระ

ทั้งนี้ การเคหะแห่งชาติยังได้เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ 48 ปี การเคหะแห่งชาติ หัวข้อ “การพัฒนาเมืองและชุมชนที่ยั่งยืน” ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวนับตั้งแต่ก่อตั้งการเคหะแห่งชาติจนถึงปัจจุบัน แบ่งเนื้อหาเป็น 3 ส่วนหลัก คือ ก่อร่าง (Build up) สร้างเสริม (Enhance) เติมฝัน (Fulfill) พร้อมด้วยสารจากอดีตผู้ว่าการและผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติปัจจุบัน ผู้สนใจสามารถติดตามได้ที่ https://nha48th.com