posttoday

ตามจับ2ยี่ปั้วแสบตุ๋นชาวบ้านลงทุนโควต้าหวยสูญกว่า400ล้าน

16 พฤศจิกายน 2563

กองปราบตามรวบ 2 ยี่ปั้วแสบหลอกชาวบ้านลงทุนโควต้าลอตเตอรี่เสียหายกว่า 400 ล้าน พบมีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 200 ล้านถอนออกจนเกือบหมดก่อนถูกจับ

เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พ.ต.ท.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผกก.กก.3 บก.ป.พร้อม พ.ต.ท.เอนก บุญตา สว.กก.3 บก.ป.แถลงผลการจับกุม นายทศพร จิตรแม้น และนายยุทธนา ทองคำ สองผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดรัตนบุรี ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ได้ที่บ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี หลังมีพฤติกรรมชักชวนให้ชาวบ้านใน พื้นที่ จ.สุรินทร์ นำเงินมาร่วมลงทุนโควต้าล็อตเตอรี่ ก่อนจะเชิดเงินทั้งหมดหนี มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 400 ล้านบาท โดยจับได้พร้อมของกลางเงินสด 796,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท แหวนทองคำ รถจักรยานยนต์ และรถยนต์

พ.ต.ท.วิวัฒน์ กล่าวว่า เมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมามีผู้เสียหาย 80 ราย แจ้งความกับตำรวจ สภ.รัตนบุรี ให้ติดตามจับกัมคนร้ายที่หลอกขายโควต้าล็อตเตอรี่ 10 ราย ก่อนที่ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถติดตามจับกุมได้แล้วก่อนหน้านี้จำนวน 8 ราย คงเหลือนายทศพร และนายยุทธนา 2 ผู้ต้องหารายนี้ที่ยังคงหลบหนี จึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแสจนสามารถติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว นอกจากนี้จากการสืบสวนยังพบอีกว่าเมื่อปี 2561 นายทศพร ยังเคยหลอกลวงชาวบ้านนับร้อยราย โดยอ้างตนเป็นร่างทรงจะพาไปขุดหาสมบัตินครจำปาศรี ใน จ.มหาสารคาม ก่อนหลบหนีหมายจับของ สภ.นาเชือก มาก่อเหตุที่ จ.สุรินทร์

ตามจับ2ยี่ปั้วแสบตุ๋นชาวบ้านลงทุนโควต้าหวยสูญกว่า400ล้าน

ทั้งนี้ จากการสอบสวนนายทศพร ให้การปฏิเสธอ้างว่าไม่ได้ชักชวนผู้เสียหายมาลงทุน อ้างว่าเป็นเพียงผู้ที่ซื้อล็อตเตอรี่มาขายอีกทอดเท่านั้น ส่วนนายยุทธนา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา บอกว่ารู้จักกับนายทศพร ตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งเจ้าตัวอ้างเป็นผู้ถือโควต้าซื้อขายหวย ก่อนตนเองจะร่วมลงทุนด้วย 3 ล้านบาท และเปิดบัญชีร่วมกันเพื่อใช้จ่ายตั้งแต่เดือนก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่ามีเงินหมุนเวียนกว่า 200 ล้านบาท โดยหลังจากนี้จะสืบสวนขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม เนื่องจากพบว่ามีการถอนเงินสดจำนวนมากออกจากบัญชีก่อนถูกจับ และเชื่อว่ายังมีทรัพย์สินอื่นๆ ที่คนร้ายนำไปซุกซ่อนที่อื่น ก่อนติดตามตรวจยึดตาม พ.ร.บ.มาตรการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินต่อไป

“ฝากเตือนประชาชนว่าทั่วประเทศไทยผู้ที่มีโควต้าล็อตเตอรี่ทั้งประเทศมีเพียง 1.9 แสนคน ไม่ต้องมีใบอนุญาตการขาย คนที่อยากขายจะต้องซื้อต่อจากผู้ที่มีโควต้า จึงเกิดเป็นช่องว่างในการกระทำผิด หากพบการขายล็อตเตอรี่ในราคาถูกกว่าที่รัฐกำหนด ให้ติดต่อสำนักงานสลากกินแบ่งให้ตรวจสอบก่อน” พ.ต.ท.วิวัฒน์ กล่าว