สช.เผยผลสอบสารสาสน์ฯราชพฤกษ์บริหารงานผิดพลาดต้องจัดระบบใหม่

นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาธิการ กช.) เปิดเผยว่า ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ นนทบุรี มีครูและบุคลากรทั้งหมด 398 คนแบ่งเป็นครูไทย 194คน ครูต่างชาติ 127 คน บุคลากรทางการศึกษา 32 คน พี่เลี้ยงเด็ก 45 คน ในจำนวนนี้รวมถึงครูจุ๋มด้วย

ครูไทย 193 คนมีเอกสารยืนยันใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูครบ 142คน ใบอนุญาตฯ หมดอายุ 4 คน กำลังตรวจสอบว่าได้ไปต่อใบอนุญาตฯแล้วหรือยังหากโรงเรียนให้ปฏิบัติหน้าที่สอนโรงเรียนก็มีความผิด ส่วนอีก 52 คน ยังหาเอกสารไม่ครบจึงยังไม่สามารถยืนยันข้อมูลได้ สำหรับครูต่างชาติ พบว่า 76 คน ที่ขออนุญาตเข้ามาปฏิบัติการสอนและมีใบอนุญาตฯถูกต้อง ส่วนอีก 51 คน มีเฉพาะรายชื่อกับสัญชาติแต่ไม่มีข้อมูลอื่น ซึ่งจะต้องมาตรวจสอบว่า มีสัญญาจ้าง และเข้าเมืองมาอย่างถูกต้องหรือไม่ และสอนเด็กระดับไหนอย่างไร

สำหรับบุคลากร 32 คน และพี่เลี้ยงเด็ก 45 คน รวมเป็น 77 คน กำลังตรวจสอบสัญญาจ้าง และให้ปฏิบัติหน้าที่ได้ถูกต้องตามสัญญาจ้างหรือไม่ กรณีหากเป็นบุคลากรอื่นที่ไม่ใช่บุคลากรทางการศึกษา ทางโรงเรียนได้ ทำประกันสังคมให้หรือไม่ เพราะถ้าเป็นบุคลากรทางการศึกษา จะเข้าระบบกองทุนสงเคราะห์ได้ตามระเบียบ

อีกปัญหาหนึ่งที่พบในโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ในตราสารจัดตั้งได้ขออนุญาตให้มีรองผู้อำนวยการโรงเรียน 3 คน แต่ทางโรงเรียนกลับไม่มีการแต่งตั้ง มีเพียงผู้อำนวยการโรงเรียนคนเดียวทำหน้าที่ เมื่อผอ.ไม่อยู่ก็ไม่มีผู้บริหารดูแล เป็นเหตุให้การบริหารงานผิดพลาด แม้กระทั่งการจัดเก็บเอกสารของโรงเรียนก็ไม่เป็นระบบ เรื่องเหล่านี้ผู้อำนวยการโรงเรียนคนเดียวไม่สามารถดูแลได้ครอบคลุม เพราะเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ ขณะที่ครูขาดความมั่นใจในบทบาทหน้าที่ การทำงานจึงไม่เป็นระบบและเกิดปัญหาขึ้น

“เท่าที่ดูยังไม่ถึงขั้นต้องตั้งคณะกรรมการเข้าไปควบคุม เพราะหลักการควบคุมสถานศึกษา จะสามารถดำเนินการได้ก็ต่อเมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าโรงเรียนนี้ไม่สามารถบริหารจัดการเองได้ แต่ตอนนี้ผู้บริหารเองก็พยายามแก้ไขปัญหา และ สช.คิดว่า ทางโรงเรียนยังมีศักยภาพที่จะบริหารโรงเรียนต่อไปได้ เพียงแต่ต้องจัดระบบการบริหารใหม่” นายอรรถพล กล่าว

ด้านนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีครูโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ทำร้ายนักเรียนอนุบาลว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ปกครองที่จะเข้าแจ้งความร้องทุกข์ กรณีที่บุตรหลานถูกครูทำร้ายร่างกายเพิ่มเติม โดยกระทรวงศึกษาธิการ ได้เปิดสายด่วนเพื่อรับเรื่องราวร้องทุกข์จากทั่วประเทศแล้ว