posttoday

ศาลยุติธรรมเผยคดีฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินเดือน มิ.ย.ลดลง

01 กรกฎาคม 2563

โฆษกศาลยุติธรรม เผยยอดคดีฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินเดือน มิ.ย.ลดลง ย้ำเตือนประชาชนไม่ประมาท ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

เมื่อวันที่ 1 ก.ค. นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยถึงข้อมูลสถิติคดีความผิด พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 , พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ที่เข้าสู่การพิจารณาของศาลชั้นต้นทั่วประเทศ ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด–19 ว่า ศูนย์ข้อมูลคดี สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม ได้รวบรวมสถิติคดีดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องภายหลังรัฐบาลออกประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ฯ ว่า ภาพรวมสถิติคดีสะสมตั้งแต่วันที่ 1 - 30 มิ.ย.63 มีจำนวนคดีที่เข้าสู่การพิจารณาในกลุ่มศาลอาญา ศาลจังหวัด และศาลแขวง ทั้งหมด 5,640 คดี พิพากษาแล้วเสร็จทั้งหมด 5,389 คดี คิดเป็นร้อยละ 95.55

ทั้งนี้ จำนวนจำเลยที่ขึ้นสู่การพิจารณาทั้งหมด 10,292 คน ส่วนข้อหาที่มีการกระทำความผิดสูงสุด คือฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯ จำนวน 9,851 คน สำหรับจังหวัดที่มีผู้กระทำความผิดสูงสุดในการฝ่าฝืนพ.ร.ก. ฉุกเฉิน ฯ คือ กรุงเทพมหานคร จำนวน 965 คน ส่วนในกลุ่มศาลเยาวชนและครอบครัว มีจำนวนคำร้องที่ขอตรวจสอบการจับ รวมทั้งสิ้น 198 คำร้อง ,จำนวนเยาวชนที่เข้าสู่การตรวจจับที่ชอบด้วยกฎหมายทั้งหมด 226 คน , ข้อหาที่เข้าสู่การตรวจสอบจับกุม สูงสุด คือ ฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯ จำนวน 215 คน

โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า ภายหลังที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด– 19 (ศบค. มีการผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 4 ประกอบกับมีการยกเลิกเคอร์ฟิว ตั้งแต่เวลา 23.00 น. ของวันที่ 14 มิ.ย.63 เป็นต้นมา หากนำสถิติเดือน พ.ค. และเดือน มิ.ย. มาเปรียบเทียบกัน พบว่าสถิติคดีในกลุ่มศาลอาญา ศาลจังหวัด และศาลแขวง ในเดือน มิ.ย. มีปริมาณคดีที่เข้าสู่การพิจารณาลดลงจากเดือน พ.ค. จำนวน 9,087 คดี

ขณะที่ ในส่วนของกลุ่มศาลเยาวชนและครอบครัว สถิติการจับกุมในเดือนมิ.ย.ลดลงจาก เดือน พ.ค. จำนวน 587 คดี อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ปัจจุบันจะมีการผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 5 แล้ว แต่ก็ยังขอให้ประชาชนและผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการเพื่อป้องกันการติดเชื้อ