posttoday

ภาคประชาชนจี้เร่งแก้ไขกม.อาญาทำแท้ง ปลดล็อกผู้หญิงไม่พร้อมท้อง

10 มิถุนายน 2563

เครือข่ายภาคประชาสังคม ขับเคลื่อนแก้ไขกฎหมายทำแท้ง เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการสตรีฯ สภาผู้แทน ปลดล็อกผู้หญิงไม่พร้อมท้อง

ศ.ดร.กฤตยา อาชวนิจกุล ผู้ประสานงานเครือข่ายสนับสนุนทางเลือกของผู้หญิงท้องไม่พร้อม Choices Network Thailand และผู้แทนภาคประชาสังคม หลายองค์กร ร่วมกันยื่นหนังสือต่อนางมุกดา พงษ์สมบัติ ประธาน คณะกรรมาธิการคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ สภาผู้แทนราษฎร์โดยการยื่นหนังสือเพื่อให้คณะกรรมาธิการพิจารณาปรับปรุงประมวลกฏหมายอาญา ความผิดฐานทำแท้ง ที่รัฐสภา ทั้งนี้เครือข่ายภาคประชาสังคม ได้ยกร่างแก้ไขกฏหมายดังกล่าว ในนามเครือข่ายภาคประชาสังคมที่เข้าชื่อสนับสนุนกว่า 40 องค์กรและรายชื่อบุคคลร่วม 1500 รายชื่อ ในระยะเวลา 2 วัน

ศ.ดร.กฤตยา กล่าวว่าศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยเห็นว่าประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 301 ความผิดฐานทำแท้ง เป็นการเลือกปฏิบัติจึงขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากไม่มีการแก้ไขภายใน 360 วัน มาตรดังกล่าวจะถูกยกเลิก

นอกจากนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีข้อเสนอแนะให้มีการปรับปรุงกฏหมายดังกล่าวในมาตรา 305 ซึ่งในเรื่องนี้ครม.ได้มีมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่นกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงยุติธรรมและกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับผิดชอบ

ทั้งนี้แนวโน้มในการยกร่างของหน่วยงานภาครัฐ ยังคงมีทิศทางเอาความผิดกับผู้หญิงอยู่ดี โดยจะกำหนดอายุครรภ์ที่ทำแท้งได้ ไม่ผิดกฏหมาย หากครรภ์มีอายุเกินที่กำหนดแล้ว ถือเป็นอาญากรรม

"มาตรา 301 เป็นกฏหมายที่อัปลักษณ์ในประมวลกฏหมายอาญาไทยที่เอาผิดแต่ผู้หญิงฝ่ายเดียว ขณะที่ประมวลกฏหมายอาญา มาตราอื่นเรียกผู้กระทำความผิดใช้คำว่าบุคคล แต่มาตรา 301 ระบุผู้หญิง เป็นมาตราขยี้หัวใจผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อมที่ต้องการยุติการตั้งครรภ์ อีกทั้งกฏหมายนี้มีอายุความ 20 ปี อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ผู้หญิงทำแท้งไม่ถูกจับ แต่ตำรวจใช้ประโยชน์จากกฏหมายนี้ข่มขู่ เอาเรื่องกับแพทย์ที่ถูกดำเนินคดีหลายราย

ศ.ดร.กฤตยา กล่าวอีกว่าสิ่งที่เราต้องการ คือไม่ให้คนตายหรือบาดเจ็บจากการทำแท้ง ไม่ติดเชื้อ ทำแท้งได้อย่างปลอดภัย จึงไม่ใช่การทำแท้งเสรี "NO FREE" และการทำแท้งเสรีไม่มีในโลก แต่เป็นเหตุผลทั้งสิ้น

ด้านนางมุกดา กล่าวว่าเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่กระทำต่อสิทธิและความปลอดภัยของผู้หญิง จึงพร้อมแก้ไขให้เกิดประโยชน์กับผู้หญิง ทั้งนี้การเข้าชื่อของเครือข่ายภาคประชาสังคมและรายชื่อคนกว่า1000 คนในระยะเพียง 2 วัน สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของคนในสังคมจริงๆ