posttoday

ไทยพบป่วยโควิดเพิ่ม 3 ราย มีประวัติเสี่ยงไปห้างฯ-รพ.-ตัดผม

21 พฤษภาคม 2563

โฆษก ศบค. แถลง พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19รายใหม่ 3 ราย โดย 2 รายมีประวัติเสี่ยง ไปร้านตัดผม รพ.รัฐฯ ห้างสรรพสินค้า อีก 1 รายกลับจากต่างประเทศ ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม

เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 63 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงแถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศประจำวัน โดยมีเนื้อหาสรุปดังนี้

-พบผู้ป่วยติดเชื้อใหม่ 3 ราย / ยอดสะสม 3,037 ราย

ผู้ป่วยใหม่จำแนกได้ดังนี้ 1.ผู้ป่วยรายใหม่ จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 2 ราย 1.1 ไปสถานที่ชุมชน เช่นตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว สถานพยาบาล

รายที่ 1 ชายไทย อายุ 72 ปี สัญชาติไทย โรคประจำตัว เบาหวาน มะเร็งปอด ไปรักษาที่รพ.รัฐแห่งหนึ่งใน กทม. เมื่อ 4 วันที่แล้ว มีประวัติไปตัดผมแถวประชาชื่น ต่อมา 18 พ.ค. มีอาการไข้ ไอมีเสมหะ จึงไปรับการรักษาที่รพ.เอกชน และย้ายมารพ.รับเดิมที่รักษาตัวอยู่ วันที่ 20 พ.ค.

รายที่ 2 ชายอายุ 42 ปี สัญชาติเยอรมัน ไม่มีโรคประจำตัว และไม่มีอาการ มีประวัติเดินทางไปเยี่ยมญาติที่ จ.ชัยภูมิ ตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย. -16 พ.ค. 63 วันที่ 8พ.ค. มีญาติ 1 คน มีอาการไข้คอแห้งแต่ไม่ได้ตรวจรักษา เดินทางไปห้างสรรพสินค้าในชัยภูมิ หลังจากกลับมาได้ไปตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานวันที่ 18 พ.ค. ผลตรวจพบเชื้อ

และรายที่ 3 เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้า State Quarantine เป็นหญิงไทย อายุ 25 ปีไปเรียนภาษา และกลับจากประเทศฟิลิปปินส์ ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค. ตรวจพบเชื้อวันที่ 19 พ.ค.ไม่มีอาการ

ไทยพบป่วยโควิดเพิ่ม 3 ราย มีประวัติเสี่ยงไปห้างฯ-รพ.-ตัดผม

-รักษาหายเพิ่ม 9 ราย / ยอดสะสม 2,897 ราย รักษาตัวอยู่ในรพ.84 ราย

-ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม / ยอดสะสมคงที่ 56 ราย

-โฆษก ศบค. กล่าวว่า มาตรการผ่อนคลายทั้งหลายยังจำเป็น การไปห้าง ไปตัดผม เกิดขึ้นในช่วงที่มีการใช้ไทยชนะแล้วหรือไม่ หากยังไม่ทันก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์ หากลงแล้ว ประโยชน์คือจะตามคนที่เกี่ยวข้องมาตรวจได้ง่าย เช่นเดียวกับการไปร้านตัดผมประชาชื่น ต้องหาคนมารับบริการตัดผมในวันเวลาใกล้เคียงตรงนั้น การหาไม่ง่าย แต่ถ้าร้านนั้นลงทะเบียนไทยชนะ คนเข้าไปสแกนเข้าไป วิธีการหาใช้เวลาไม่นาน ไม่เสียงบประมาณ เมื่อเจอก็เชิญมารับการตรวจโดยเร็ว ยืนยันการสแกนเข้าออก เก็บข้อมูลโดยกรมควบคุมโรค ไม่ได้ไปดูธุรกิจการค้า หรือข้อมูลทางการเงินแต่อย่างใด

-การพบผู้ป่วยหลักเดียววันนี้ เป็นผลที่เกิดขึ้นจากระยะของมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 1 และสิ่งที่กำลังจะทำวันนี้จะเกิดขึ้นในอีก 7-14 วันข้างหน้า ขอให้ประชาชนดูแลตัวเองต่อไป ใส่หน้ากากอนามัย การ์ดห้ามตก