posttoday

ตำรวจเค้นเครือข่ายปั่นหน้ากากอนามัย ไม่เลิกล่าแหม่มโพธิ์ดำ

09 เมษายน 2563

ตำรวจแถลงคดีตุนหน้ากากอนามัย ปั่นราคาสูงลิ่ว เค้นเครือข่ายเสี่ยบอย- พันธุ์ยศ พรรคภรดรภาพ ไม่เลิกล่าแหม่มโพธิ์ดำข้อหาส่งต่อข้อมูลเท็จ

เมื่อวันที่ 9 เมษายน เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ตร.)ในฐานะโฆษก ตร.นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงจับกุมผู้ต้องหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยและเวชภัณฑ์ตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ถึงวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา หลังมีประกาศให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม โดยจับกุมผู้กระทำผิด 328 ราย ยึดของกลางหน้ากากอนามัย 2,587,578 ชิ้น เครื่องวัดอุณหภูมิ 2,764 เครื่อง เจลแอลกอฮอล์ 80,500 ลิตร ชุดเครื่องตรวจไวรัสโควิด 55,048 ชิ้น รวมมูลค่าทั้งหมด 71,959,665 บาท

พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง?กล่าวว่า หลังมีประกาศเป็นสินค้าควบคุม ผู้ผลิตรายต่างๆ ต้องรายงานปริมาณจำนวนการผลิต การนำเข้า-ส่งออกต่อกรมการค้าภายใน ซึ่งตำรวจประสานข้อมูลกรมการค้าภายใน และกรมศุลากร หากพบว่าผู้ใดไม่ปฏิบัติตาม ดำเนินการตามกฎหมาย โดยมีคดีสำคัญที่เกี่ยวข้อง 4 เรื่อง คือ

1.คดีจับกุมนายศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี หรือ “เสี่ยบอยมิดไนท์” ที่โพสต์เฟซบุ๊กอ้างว่ามีหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น ก่อนขยายผลจับกุมนายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ พร้อมของกลางหน้ากากอนามัย 2,826 ชิ้น

2.คดีนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่มีผู้ใช้เพจเฟซบุ๊กชื่อแหม่มโพธิ์ดำ นำข้อมูลเท็จของเสี่ยบอยมาแชร์ต่อ ซึ่งเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เรื่องการส่งต่อข้อมูลเท็จ โดยตำรวจกำลังสืบหาตัว

3.คดีที่อดีตอธิบดีกรมการค้าภายในแจ้งความต่อโฆษกกรมศุลกากรกรณีแถลงข่าวการส่งออกหน้ากากอนามัย ล่าสุดผู้ร้องทุกข์ได้ถอนแจ้งความเพราะถือเป็นความผิดส่วนตัว และสำนวนถูกส่งให้อัยการเรียบร้อย

สุดท้ายคดีที่ 4.คดีที่ผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบปรามการคุ้มครองผู้บริโภค(บก.ปคบ.) ว่าสั่งหน้ากากอนามัยกับนายอานนท์วัฒน์ วรเมธชยางกูร อดีตผู้สมัครสส.พรรคภราดรภาพ ซึ่งตำรวจได้จับกุมและให้ประกันตัวไปแล้ว

พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวว่าการจับกุม นายพันธ์ยศ ประธานยุทธศาสตร์พรรคภราดรภาพ มีหลักฐานเชื่อมโยงพบว่าเป็นตัวการขายหน้ากากอนามัยรายใหญ่ของประเทศ จากพฤติกรรมพบว่าเป็นผู้สั่งนำเข้ามาเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้ผลิตเอง แต่จะผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์และสร้างแบรนด์สินค้าเพื่อสร้างคุณค่า ก็ถือเป็นความผิดเกี่ยวข้องกับการผลิต

ทั้งนี้ นายพันธุ์ยศ ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ล่าสุดได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเนื่องจากไม่มีพฤติกรรมหลบหนี แต่หากพบความผิดอื่นก็จะแจ้งข้อหาที่เกี่ยวข้อง แยกเป็นต่างกรรมต่างวาระ อย่างไรก็ตาม ขบวนการกักตุนอนามัยที่ถูกจับกุมครั้งนี้ นับเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความขาดแคลนหน้ากากอนามัยทั่วประเทศ จนมีการกักตุนและมีราคาสูง นอกจากนี้ ยังพบว่ามีคนเกี่ยวข้องกับขบวนการขายหน้ากากนี้อีกจำนวนหนึ่ง ยังไม่พบว่ามีนักการเมือง แต่ในอนาคตก็ไม่แน่ ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.สั่งให้เอาผิดทั้งหมดไม่ยกเว้น

ด้าน พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรมัย ผบก.สส.บช.น.กล่าวว่า สำหรับคดีการจับกุมนายศรสุวีร์ หรือเสี่ยบอยมิดไนท์ พบพฤติกรรมผู้ต้องหาที่พยายามทำตัวเองเป็นตัวกลางรวบรวมหน้ากากไปขายต่อให้นายพันธุ์ยศ โดยล็อตที่นำไปขาย ระยะหลังสั่งนำเข้าจากต่างประเทศ ที่พยายามสร้างยี่ห้อสินค้าหน้ากากอนามัยตัวเอง มีทั้งไทยเฮลล์ และอื่นๆ พบว่ามีการขายลิขสิทธิ์สินค้าด้วย? ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานทุกมิติทั้งหลักฐานการซื้อขาย การติดต่อต่างๆ จนพบว่ามีความเชื่อมโยงบุคคลอื่นๆ 7-8 คน อยู่ในขบวนการนายหน้าซื้อขายเก็งกำไรรายเดียวกันจึงสามารถออกหมายจับได้ จากนี้ก็จะดำเนินการขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้องรายอื่นต่อไป

พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.ข่าวกรองยาเสพติด ปส.กล่าวว่า ตำรวจได้ประสานกระทรวงดิจิตัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) เพื่อทำงานร่วมกับศูนย์ต่อต้านเฟกนิวส์ รวบรวมข้อมูลข่าวสารให้สืบสวนจับกุมผู้ทำข่าวปลอมหลอกลวงประชาชน โดยวันนี้มีรายงานการจับกุมผู้โพสต์เรื่องประกาศเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง มีผู้ต้องหา 3 คนหลัก หากเป็นคนแชร์ทั่วไปที่ไม่มีเจตนาก็จะเรียกมาตักเตือน

ขณะเดียวกัน ตำรวจกองบังคับการปราบปราม และตำรวจกองปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บก.ปอท.) ได้สืบสวนหาตัวหญิงสาวที่โพสต์ว่าเงิน 5,000 บาท ที่เป็นเงินในเยียวยาตามมาตรการผู้ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 เป็นเงินหลังตู้เย็น ล่าสุดได้เชิญตัวไปสอบปากคำที่ ภ.จว.ภูเก็ต แล้ว ก่อนดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดสายด่วน 1155 และ 1599 รับแจ้งเหตุ แจ้งเบาะแส หรือได้รับความเดือดร้อนจากการเอาเปรียบการหน้ากากอนามัย หรือเวชภัณฑ์การแพทย์ เพื่อไม่ให้ประชาชนต้องเดินทางจากภูมิลำเนาเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาแจ้งความ