ครม.สั่งส่วนราชการเร่งจัดสัมมนาในประเทศ 3 เดือนช่วยอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบมาตรการเร่งรัดให้ส่วนราชการในสังกัดของทุกกระทรวง รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ และองค์กรมหาชนทุกแห่ง จัดประชุมและสัมมนาภายในประเทศเป็นเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนเม.ย. – มิ.ย.2563 เพื่อพยุงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศ แทนการจัดประชุมและสัมมนาในต่างประเทศ

นอกจากนี้ยังขอให้ทุกส่วนราชการส่งปฏิทินการจัดประชุมและสัมมนาดังกล่าว ให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อนำไปขยายผลร่วมกับภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อไป

ทั้งนี้ ตามปกติทุกส่วนราชการจะมีการประชุมและสัมมนาเป็นการปฏิบัติราชการ แต่ขณะนี้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ดังนั้นเพื่อเป็นการบรรเทาและพยุงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งระบบให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม

จึงขอความร่วมมือให้ทุกส่วนราชการ เร่งการใช้จ่ายงบประมาณปี 2563 โดยหันมาจัดประชุมและสัมมนาภายในประเทศ 3 เดือนนับจากนี้ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้มาก เพราะปัจจุบันการท่องเที่ยวของไทยได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ค่อนข้างรุนแรง การออกมาตรการส่งเสริมการประชุม และสัมมนาในประเทศก็มีความจำเป็นที่ต้องทำโดยด่วน เพราะจะทำให้เกิดการเดินทางและการใช้จ่ายเงินไปยังเศรษฐกิจฐานราก และจะส่งผลกระทบให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวชะลอการเลิกจ้างงาน

รวมทั้งจะส่งผลกระทบเชิงบวก ต่อจิตวิทยาในการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ทั้งประชาชนคนไทย และชาวต่างชาติ และเกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศไปในทิศทางที่ดีขึ้นด้วย

ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ยังไม่ได้พิจารณาต่ออายุการยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราหน้าด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือ Visa on Arrival (วีโอเอ) ที่ 2,000 บาท สำหรับ 18 ประเทศ และ 1 เขตเศรษฐกิจ (ไต้หวัน)ซึ่งจะหมดเขตในวันที่ 30 เม.ย.2563นี้ และยังไม่มีโยบายที่จะต่ออายุ โดยจะคำนึงถึงสุขภาพของคนในประเทศเป็นสำคัญก่อน