ตร.เตรียมเรียกพี่ชาย-ภรรยา"บรรยิน"สอบเพิ่มโยงคดีฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา

เมื่อวันที่ 1 มี.ค.พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม (รอง ผบก.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้าจับกุมตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภาภรณ์ และพวกรวม 6 คน ร่วมกันก่อเหตุอุ้มฆ่านายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐพี่ชายของผู้พิพากษาว่า ขณะนี้สำนวนคดีมีความคืบหน้าไปมาก ส่วนการสอบปากคำพยานบุคคลต่างๆก็เกือบครบถ้วนเรียบร้อย คงเหลือสอบปากคำเจ้าหน้าที่แพทย์ และพฐ.อีกบางส่วนเท่านั้น เพราะยังต้องรอผลการตรวจหลักฐานทางนิติวิทยาศาตร์ออกมาอย่างเป็นทางการก่อน จึงจะทำการสอบปากคำเพื่อประกอบสำนวนได้ ซึ่งคาดว่าภายในเดือนมี.ค. นี้ สำนวนคดีดังกล่าวน่าจะแล้วเสร็จ

ทั้งนี้ ในส่วนของการสืบหาเบาะหลักฐานอื่นเพิ่มเติมนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบนำโดย พ.ต.อ.เอนก ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการกองปราบ และประสานนักประดาน้ำลงทำการงมค้นหาหลักฐานในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณ ต.กลางแดด อ.เมือง จ.นครสวรรค์ อีกครั้ง เพื่อค้นหาหลักฐานเพิ่มเติม ก่อนจะพบหลักฐานสำคัญเป็นแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์และจักรยานยนต์ รวม 4 แผ่น ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบแผ่นป้ายทะเบียน 2 ใน 4 แผ่นดังกล่าวนั้นเป็นแผ่นป้ายทะเบียนที่ พ.ต.ท.บรรยิน และพวก นำมาใช้ติดรถยนต์ของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุ ส่วนอีก 2 แผ่น ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่

นอกจากนี้ ทาง พ.ต.อ.เอนก ยังได้เดินทางไปสอบปากคำเจ้าหน้าที่ขนส่งรายหนึ่งในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ หลังพบว่า เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเป็นคนจัดหาแผ่นป้ายทะเบียนรถให้กับ พ.ต.ท.บรรยิน จากการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ขนส่งให้การว่า รู้จักกับ พ.ต.ท.บรรยิน มานานแล้ว ก่อนเกิดเหตุพ.ต.ท.บรรยินได้ติดต่อมาพร้อมกับขอแผ่นป้ายทะเบียนรถที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว ด้วยความที่ไม่ได้คิดว่าจะนำไปใช้ทำความผิดจึงให้ไป กระทั่งมารู้ภายหลังว่า พ.ต.ท.บรรยิน นำแผ่นป้ายทะเบียนเหล่านี้ไปสวมตบตาเจ้าหน้าที่เพื่อใช้ก่อเหตุดังกล่าว

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีของกองปราบยังได้ประสานเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน มาทำการรางวัดที่ดินตรงจุดที่พบเศษชิ้นส่วนกระดูกของนายวีรชัย ผู้ตาย ซึ่งเป็นป่ารกร้างบริเวณเขาใบไม้ จ.นครสวรรค์ เพื่อพิสูจน์ทราบว่าที่ดินผืนดังกล่าวใครเป็นผู้ครอบครอง กระทั่งเมื่อทำการรางวัดและตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้วจึงพบว่า ที่ดินผืนดังกล่าวนั้นเป็นของนางวราภรณ์ ตั้งภากรณ์ ภรรยาของ พ.ต.ท.บรรยิน เป็นผู้ครอบครอง จึงได้เตรียมเชิญตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้งเพื่อพิสูจน์ทราบว่าข้อเท็จจริงว่า นางวราภรณ์ มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่

นอกจากนี้ ทางพนักงานสอบสวนกองปราบยังได้เตรียมเชิญตัว ร.อ.จักรวาล ตั้งภากรณ์ พี่ชายของ พ.ต.ท.บรรยิน มาสอบปากคำเพิ่มเติมด้วยอีกราย หลังแนวทางสืบสวนพบว่า ร.อ.จักรวาล นั้นเป็นผู้ติดต่อขอยืมรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นสปอร์ตไรเดอร์ 1 ในรถยนต์ของกลาง มาจาก พ.ต.ท.ประเสริฐ ผลประสาร เจ้าของซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจใน จ.พิจิตรเพื่อนำมาใช้งาน ก่อนที่ต่อมาทาง พ.ต.ท.บรรยิน น้องชายจะนำรถคันดังกล่าวไปใช้ในการก่อเหตุ จึงจำเป็นต้องเชิญตัวมาสอบปากเพื่อให้คลายข้อสงสัยในส่วนนี้