หลักฐานภาพกล้องวงจรปิดมัดตัวแก๊งอุ้มพี่ชายผู้พิพากษา

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามจับกุม พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ พร้อมพวก รวม 6 คน ในคดีการหายตัวไปของพี่ชาย ผู้พิพากษาประจำศาลอาญากรุงเทพใต้นั้น

มีรายงานจากชุดสืบสวนว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ พบว่า เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 63 เวลาประมาณ 16.00-17.00 น. กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพ ขณะกลุ่มคนร้าย 4 คนได้เดินทางมาที่บริเวณหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ พี่ชายของผู้พิพากษาลงจากรถแท็กซี่ โดยหนึ่งในคนร้ายได้เดินลงจากรถยนต์สวมเครื่องแบบตำรวจ มาเชิญตัวพี่ชายของผู้พิพากษาไป

จากการตรวจสอบพบว่าทันทีที่รถของคนร้ายได้ขับออกจากศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้ใช้เส้นทาง ถนนพระราม 5 อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี มุ่งหน้าต่อไปยัง จ.สุพรรณบุรี และ จ.นครสวรรค์

ทั้งนี้มีรายงานว่า ขณะที่กลุ่มคนร้ายได้คุมตัวพี่ชายผู้พิพากษาอยู่นั้น ได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อผู้พิพากษาเพื่อข่มขู่ให้พิพากษายกฟ้องในคดีโอนหุ้นนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มูลค่าร่วม 300 ล้านบาท ซึ่ง พ.ต.ท.บรรยิน กับพวกตกเป็นจำเลย และระหว่างทางกลุ่มคนร้ายได้ลงมือทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต จึงมีการปิดบังซ่อนเร้นทำลายศพและอำพรางศพทิ้งในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณ ต.บ้านกลางแดด จ.นครสวรรค์

จากการสอบปากคำหนึ่งในผู้ต้องหาให้การซัดทอดว่า ขบวนการนี้มีด้วยกัน 6 คน ตั้งแต่ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นผู้บงการ, ผู้จัดหาคนและทำหน้าที่ขับรถรับ-ส่งคนเพื่อมาก่อเหตุ, ผู้ลงมือก่อเหตุและอยู่ในวันเกิดเหตุ

เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบข้อมูลจากกล้องวงจรปิด ข้อมูลการติดต่อสื่อสาร และข้อมูลการใช้รถ จนทราบตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุก่อนจะรวบรวมหลักฐานทั้งหมด ขออนุญาตศาลอาญา ออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาในคดีนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมด รวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทางคดี

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 63 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบได้นำหมายค้นเข้าตรวจค้นเป้าหมายซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดนครสวรรค์ 19 จุด และกรุงเทพมหานคร 2 จุด

มีรายงานข่าวแจ้งว่า การตรวจค้นเป้าหมายในกรุงเทพ เจ้าหน้าที่ได้นำ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้าดรีม สีดำแดง หมวกกันน็อคสีเทา 2 ใบ และพยานหลักฐานอื่นๆ บรรจุอยู่ในถุงกว่า 10 ใบ ที่ยึดได้มาเก็บไว้ที่กองปราบปรามด้วย