posttoday

สธ.แนะเลี่ยงชุมนุมการเมืองหวั่นเพิ่มความเสี่ยงโควิด-19

22 กุมภาพันธ์ 2563

กระทรวงสาธารณสุข เผยผู้ป่วยไวรัสโควิด-19 หายดีกลับบ้าน 1 ราย ยอดสะสมคงเดิม 35 ราย จ่อคัดกรอง โควิด-19 ใน นักเดินทางมาจากอิตาลี หลังตัวเลขผู้ป่วยพุ่งสูง แนะเลี่ยงนัดชุมนุมการเมืองหวั่นเพิ่มความเสี่ยง ให้เชื้อไวรัสยิ่งแพร่กระจาย

เมื่อวันที่ 22 กพ. นพ. ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน สาธารณสุขนิเทศน์ เขตสุขภาพที่ 10 พร้อมด้วย นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค และ นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิชย์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า กระทรวงสาธารณสุข มีข่าวดี วันนี้มีผู้ป่วยยืนยันกลับบ้านได้เพิ่มอีก 1 ราย เป็นชายไทยอายุ 24 ปี รักษาที่โรงพยาบาลชลบุรี ซึ่งเป็น 1 ในกลุ่มไทยกลับบ้าน 138 คน ทำให้มีผู้ป่วยยืนยันรักษาหายกลับบ้านแล้ว 20 ราย เหลือนอนในโรงพยาบาล 15 ราย รวมผู้ป่วยยืนยันสะสม 35 รายเท่าเดิม ไม่มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม ส่วนใหญ่อาการดีขึ้น ส่วนผู้ป่วยที่ใช้เครื่องเอคโม (ECMO) หรือเครื่องช่วยพยุงการทำงานของปอด และรายที่เป็นวัณโรคร่วมด้วย อาการคงที่ ยังอยู่ในห้องไอซียู ทีมแพทย์ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด

ขณะที่ อยู่ในข่ายสอบสวนโรคโควิด -19 เพิ่มขึ้นอีก 101 คน รวมขณะนี้เป็น 1,252 คน จากสาเหตุที่พบผู้อยู่ในเกณฑ์สอบสวนโรคเพิ่มขึ้น เนื่องมาจากได้มีการขยายวงการตรวจคัดกรองให้ในหลายประเทศ และเขตปกครองพิเศษ ทั้งจาก เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน และการเฝ้าระวังผู้ป่วยปอดอักเสบใน 8 จังหวัดท่องเที่ยวที่เคยมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปจำนวนมาก ชี้ว่าวันนี้ครบ 50 วันของการได้รับการรายงานการแพร่ระบาดของโควิด-19 ย้ำมาตรการในการยืนยันการแพร่ระบาดทางกระทรวงสาธารณสุขได้ทำอย่างเต็มที่ ไม่มีล่าช้า

สธ.แนะเลี่ยงชุมนุมการเมืองหวั่นเพิ่มความเสี่ยงโควิด-19

ด้านนพ. ธนรักษ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ของการแพร่ระบาด ขณะนี้ยืนยันว่านอกจากประเทศที่มีการเฝ้าระวัง ล่าสุดเล็ง เพิ่มอิตาลี เป็นอีกประเทศ ที่ต้องมีการตรวจคัดกรองโควิด-19 หลังสถานการณ์ทั่วโลก ตัวเลขผู้ป่วย สงสัยติดเชื้อพุ่งสูง ยืนยันขณะนี้ไทย ยังไม่ได้ห้ามการเดินทางระหว่างประเทศ เพียงแต่ออกคำแนะนำแจ้งเตือน ให้ผู้ที่จะเดินทางพิจารณา หากไม่มีความจำเป็นต้องเดินทางของให้เลี่ยง หากเดินทางขอให้ระมัดระวังตนเองให้ดี เตรียมพร้อมทั้งหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ ส่วนคนที่เดินทางกลับมาจากประเทศเสี่ยง ต้องไปรับการตรวจคัดกรองที่สนามบิน หากมีไข้ ไอ เจ็บคอ มีอาการป่วยระบบทางเดินหายใจ ต้องได้รับการคัดกรอง และเฝ้าระวังโรค 14 วัน ตามาตรการ

สำหรับการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ "โมโตจีพี 2020" ที่จ.บุรีรัมย์ ในช่วงปลายเดือนมี.ค.นี้ รวมถึงการที่อาจมีนัดชุมนุมทางการเมืองในช่วงนี้นั้น มองว่าทั้งสองสถานการณ์นับเป็นการรวมตัวของคนเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงอย่างชัดเจน แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าสามารถบริหารจัดการควมเสี่ยงได้หรือไม่ ถ้าจัดการได้ดีก็จะลดความเสี่ยงได้ ดังนั้น ขอความร่วมมือผู้ที่จะเข้าร่วมงาน มีอาการคล้ายเป็นหวัด ต้องไม่ออกไป เด็ดขาด ขณะเดียวกันผู้จัดงานก็ต้องบริหารจัดการทุกวิธีในการคัดกรองผู้มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ หายใจลำบากให้ออกจากสถานที่บริเวณงาน "ประเด็นซับซ้อนมากกว่า เรื่องการจัดงานโมโตจีพี ที่บุรีรัมย์ เวลาที่คนไปรวมตัวกันไม่ใช่แค่ไปงานอีเว้นท์ครั้งเดียวจบ คนก็จะเข้าไปอยู่จังหวัดบุรีรัมย์เพิ่มจำนวนมาก ตั้งแต่ก่อนงานเริ่ม และอาจจะไปในที่ต่าง ๆ สำหรับวันงานคำแนะนำต้องมีการคัดกรอง แจกหน้ากากผ้า หน้ากากอนามัยสำหรับคนทุนคนที่จะร่วมงาน และต้องมีแจกจ่ายเจลแอลกอฮอล์ล้างมืออย่างทั่วถึง เป็นหลักการทั่วไป ต้องทำทั้งผู้ร่วมงาน และผู้ไปดู และผู้ที่ไปดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องก็ต้องจัดการทั้งหมด...ส่วนการชุมนุมทางการเมือง ถ้าไม่อยากเพิ่มความเสี่ยงก็อย่าจัดเลยครับ ไม่ใช่เวลาที่เหมาะ และจะเป็นการสนับสนุนให้ไวรัสแพร่เชื้อได้โดยง่าย ถ้าจำเป็นจะต้องจัดผมคิดว่ามีหลายวิธีที่จะแสดงความไม่เห็นด้วย ถ้าทำทางอื่นได้แนะนำให้ทำทางอื่น ในมุมมองด้านการแพทย์และการสาธารณสุข เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมสำหรับเรื่องที่อาจไม่สำคัญจำเป็น เพราะสุขภาพของผู้คนเป็นเรื่องสำคัญที่สุด แนะนำว่ากิจกรรมบางอย่างสามารถชะลอได้ก็ชะลอไป"นายแพทย์ธนรักษ์ กล่าว

สธ.แนะเลี่ยงชุมนุมการเมืองหวั่นเพิ่มความเสี่ยงโควิด-19