posttoday

ตำรวจเตรียมคุมตัวหนุ่มแว่นตี๋อวดรวยส่งฟ้องศาลแขวงนครปฐม

24 ตุลาคม 2562

โลกโซเชียลเสียงแตกปมหนุ่มตี๋ซีวิคอวดรวยอ้างป่วยโรคคุมตัวเองไม่ได้สมควรถูกซ้ำเติมหรือปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมหลังตำรวจแจ้งข้อหาดูหมิ่น

โลกโซเชียลเสียงแตกปมหนุ่มตี๋ซีวิคอวดรวยอ้างป่วยโรคคุมตัวเองไม่ได้สมควรถูกซ้ำเติมหรือปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมหลังตำรวจแจ้งข้อหาดูหมิ่น

พันตำรวจเอกชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผู้กำกับการตำรวจ สภ.พุทธมณฑล ได้สอบถามข้อมูลกับหนุ่มตี๋แว่นอวดรวยและมารดา หลังเกิดเหตุการณ์ทะเลาะกับคู่กรณีที่รถเฉี่ยวชนกัน ก่อนจะพูดหมิ่นคนไทย ทำให้เกิดกระแสต่อต้านอย่างหนักในโลกโซเชียล

มารดาได้ยกมือไหว้และขอโทษคนไทย ซึ่งบอกว่าลูกชายไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่ 6 ขวบและกลับมาไม่นานและไม่เข้าใจและด้อยเรื่องการเรียนรู้วัฒนธรรมธรรมทำให้พลาดพลั้งการใช้ภาษาและคำ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นคือช่วงเช้าของวันที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา ทางบ้านได้มีการเตรียมของเพื่อจะไปวัดจนดึกทำให้ลูกชายไม่ได้กินยาแก้โรคซึมเศร้าที่เป็นประเภทควบคุมตัวเองไม่ได้เมื่อมีความเครียด (พร้อมกับนำยามาแสดง) โดยเมื่อเกิดเหตุด้วยความรีบและไม่เข้าใจการขับรถของคนไทยจึงเกิดอาการโมโหขึ้นมาและควบคุมการแสดงอารมณ์ไม่ได้ ขณะที่หนุ่มตี๋แว่น ได้ยกมือไหว้ของโทษสังคมด้วยสีหน้าสลดและมีท่าทีดูเหนื่อยล้า ได้บอกว่าผมป่วยจริงและเสียใจขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่ได้กินยาระงับอาการไว้จริงๆ

ขณะที่พันตำรวจเอกชัชปัณฑกาณฑ์ เปิดเผยว่าคดีดูหมิ่นนี้ตำรวจก็ได้สอบปากคำไปแล้วคาดว่าจะมีการส่งตัวไปให้อัยการไปส่งฟ้องที่ศาลแขวงภายใน 1-2 วันนี้ ซึ่งสิ่งทางคดีตำรวจก็ไม่ได้หยุดดำเนินการและเป็นห่วงเรื่องความรู้สึกของคนไทยกับกรณีแบบนี้ด้วย

ขณะเดียวกันที่สภ.พุทธมณฑล ตลอดคืนที่ผ่ามมา เมื่อยิ่งดึกจำนวนผู้ชุมนุมได้ลดลงไปเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งก็ง่วงนอนและต้องกลับไปพักผ่อนเพื่อทำงานในวันนี้แต่ยังมีส่วนหนึ่งที่พยายามจะเกาะติดสถานการณ์ได้พยายามประชิดเข้าให้ใกล้ที่สุดโดยไม่รู้ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปสอบปากคำยังที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันการปะทะกันก่อนหน้าหลายชั่วโมงแล้ว

ขณะเดียวกันโลกโซเชียลได้มีการแสดงออกหลายแนวคิดทั้งยังตำหนิหนุ่มตี๋แว่นอวยรวยและครอบครัวอย่างรุนแรง แต่อีกส่วนได้ออกมาตอบโต้ว่าเป็นเรื่องของคนป่วยซึ่งมีหลายคนแสดงออกแบบไม่เหมาะสมและยังแบ่งแยกไม่ออกว่าผู้ป่วยมีอาการเป็นอย่างไร

นอกจากนี้ยังมีนักจิตวิทยาและจิตแพทย์ได้ออกมาโพสต์บนโลกโซเชียลเพื่อเตือนสติให้ทบทวนกับการแสดงออกเรื่องอย่างมีสติ

ขณะที่จ่าพิชิต จากเพจ "Drama-addict"โพสต์เตือนสติชาวบ้านที่ไปรวมตัวกันหน้าสภ.พุทธมณฑลว่าเรื่องนี้ถึงตำรวจแล้วก็ควรปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม อีกทั้งครอบครัวของหนุ่มแว่น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ โดยจะเห็นว่า แฟนสาว ก็พยายามห้าม และขอโทษคู่กรณีอยู่ตลอดเวลา จึงอยากให้ทุกคนแยกแยะ จะได้ไม่เป็นแบบที่เค้าปรามาศไว้.