posttoday

ปปง.ยึดอายัดทรัพย์“ไซซะนะ” กว่า 40 ล้านคดียาเสพติด

12 มีนาคม 2562

ปปง.ยึดอายัดทรัพย์คดียาเสพติด “ไซซะนะ แก้วพิมพา” กว่า 40 ล้านบาท พร้อม ยึดเพิ่มครั้งที่ 5 คดีลูกชายอดีตปลัดก.วิทย์ฯ โกงหุ้น IPO เพิ่มอีก 15.8 ล้าน

ปปง.ยึดอายัดทรัพย์คดียาเสพติด “ไซซะนะ แก้วพิมพา” กว่า 40 ล้านบาท พร้อม ยึดเพิ่มครั้งที่ 5 คดีลูกชายอดีตปลัดก.วิทย์ฯ โกงหุ้น IPO เพิ่มอีก 15.8 ล้าน

เมื่อวันที่ 12 มี.ค.  เว็บไซต์สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน( ปปง.) ได้เผยแพร่คำสั่งของคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย.16/2562 เรื่องยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและการถือครองทรัพย์ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดคดีนายไซซะนะ แก้วพิมพา ผู้ต้องหาค้ายาบ้ารายใหญ่สัญชาติลาว กับพวกหลังจากตำรวจทางหลวงได้จับตัวนายวิทยา โสภา ที่จ.ชุมพรพร้อมของกลางเมทแอมเฟตามีน 2.3 ล้านเม็ด เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2558และจากการขยายผลพบว่านายไซซะนะ และนายชุมพร พนมไพรเป็นผู้สั่งการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนายไซซะนะได้ ซึ่งนายไซซะนะกับพวกมีความผิดมูลฐานตามพ.ร.บ.ฟอกเงินและมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าผู้ต้องหากับพวกได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดโดยการตรวจสอบธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องในช่วงปี 2560-2561 พบว่านายไซซะนะ กับพวกได้กระทำความผิดจริงและได้ทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจำนวน43 รายการ ทั้งอสังหาริมทรัพย์และทรัพย์สินอื่นที่ไม่ปรากฏหลักฐานทางทะเบียน เช่น รถยนต์เบนลี่ย์ รถยนต์บีเอ็ม รถยนต์เบนซ์ รถยนต์ปอร์เช่ รถยนต์โตโยต้า รถยนต์ฮอนด้า รถยนต์มินิคูเปอร์ รวมถึงนาฬิกาข้อมือและกระเป๋าแบรนด์ดัง ดังนั้นคณะกรรมการธุรกรรมจึงมีมติเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 62 ในยึดอายัดทรัพย์สิน 43รายการ พร้อมดอกผล รวมมูลค่า 40,925,168.44 บาท กำหนดไม่เกิน 90 วัน กล่าวคือ มีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินรายการที่ 1-36 รายการ   ตั้งแต่วันที่15 ม.ค.-14 เม.ย.62 และมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินอีก 7 รายการคือรายการที่ 37-43 ตั้งแต่วันที่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติในกรณีที่ผู้ถูกยึดอายัดไม่มีส่วนได้เสียให้ยื่นคำร้องขอเพิกถอนได้ที่ปปง.ภายใน90 วัน

นอกจากนี้ คณะกรรมการธุรกรรมยังมีคำสั่งยึดอายัดทรัพย์ที่เกี่ยวกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดชั่วคราวไว้เพิ่มเติมรายนายปาณสาร สมชีวิตา ลูกชายอดีตปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ กับพวก อีก 6  รายการ มูลค่า 15.8 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ 62 – 12 พ.ค. 62หลังจากก่อนหน้านี้ปปง.ได้มีคำสั่งยึดอายัดทรัพย์ในความผิดดังกล่าวไว้เมื่อวันที่ 23 ม.ค.2558 รวม 14 รวม 112,429.47 บาท ครั้งที่ 2 วันที่ 26 ม.ค.2558 อายัดไว้ 24 รายการ มูลค่า 438,220.28 บาท และครั้งที่ 3 วันที่ 31 ส.ค.2559 อายัดเพิ่มอีก 1 รายการ เป็นหุ้นบริษัทไทยโวลาห์ เอนเนอร์จี่ จำนวน 5 แสนหุ้น รวมมูลค่าหุ้นละ 4.6 บาท รวมเป็นเงิน 2.1 ล้านบาทครั้งที่ 4 วันที่ 9 เม.ย 61 อายัดไว้อีก 11 รายการสำหรับคดีดังกล่าวนายปาณสารและพวกถูกผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีกรณีหลอกลวงว่ามีหุ้นIPOเพื่อเสนอขายให้ประชาชนทั่วไปก่อนนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์โดยอ้างว่าได้รับการจัดสรรจากผู้มีอุปการคุณ 3 ตัว คือ หุ้นบริษัทคาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CBG)2.หุ้นบริษัทวิจิตรภัณฑ์ปาล์มออยล์ จำกัด (มหาชน ) (VPO) 3.หุ้นบริษัทเมืองไทยลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (MTLS)รายละกว่า 1 ล้านหุ้นซึ่งประชาชนเห็นว่ามีโอกาสทำกำไรได้จึงหลงเชื่อซื้อหุ้น IPO จากนายปารณสาร รวมมูลค่าความเสียหาย 281 ล้านบาท เนื่องจากวันเปิดตลาดผู้ต้องหาไม่สามารถโอหุ้นเข้าไปในบัญชีของผู้เสียหายแต่ละคนได้โดยนายปาณสารอ้างว่าติดขั้นตอนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและถูกปปง.อายัดเงินไว้เมื่อผู้เสียหายตรวจสอบพบว่าถูกหลอกลวงจึงรวมตัวเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนและสามารถจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 6 พ.ค.2557