posttoday

กสม.ประณามโจรใต้ บุกยิงพระสงฆ์ - โต๊ะอิหม่าม ชี้ ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง

19 มกราคม 2562

กรรมการสิทธิฯออกแถลงการณ์ ประณามกลุ่มก่อความไม่สงบ บุกยิงป้อมชุดรักษาการหมู่บ้านวัดรัตนานุภาพ เป็นเหตุทำให้พระภิกษุมรณภาพ และกรณียิงโต๊ะอิหม่าม อ.รือเสาะ เสียชีวิต ที่ นราธิวาส ชี้ ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง


กรรมการสิทธิฯออกแถลงการณ์ ประณามกลุ่มก่อความไม่สงบ บุกยิงป้อมชุดรักษาการหมู่บ้านวัดรัตนานุภาพ เป็นเหตุทำให้พระภิกษุมรณภาพ และกรณียิงโต๊ะอิหม่าม อ.รือเสาะ เสียชีวิต ที่ นราธิวาส ชี้ ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง

เมื่อวันที่ 19 ม.ค. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์เรื่อง ประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง กรณีการบุกยิงป้อมชุดรักษาการหมู่บ้านวัดรัตนานุภาพเป็นเหตุทำให้พระภิกษุมรณภาพ และการยิงโต๊ะอิหม่ามรือเสาะเสียชีวิตในจังหวัดนราธิวาส

"จากเหตุการณ์คนร้ายไม่ทราบจำนวนบุกยิงป้อมชุดรักษาการหมู่บ้านวัดโคกโกหรือวัดรัตนานุภาพ อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ทำให้พระสงฆ์มรณภาพและบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2562 และก่อนหน้านี้ปรากฏเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายดอเลาะ สะไร โต๊ะอิหม่ามมัสยิดบ้านปูโปะ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาสเสียชีวิต เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2562 นั้น

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ซึ่งมีบทบาทและหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในอันที่จะส่งเสริมการเคารพและปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนและปกป้องหลักการเคารพต่อสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย อันจะละเมิดมิได้ เห็นว่า ผู้นำทางศาสนาทั้งพุทธและอิสลามที่ถูกพรากชีวิตไปล้วนเป็นที่เคารพ และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของศาสนิกชนซึ่งมิควรที่จะถูกลบหลู่หรือทำร้าย แม้จะมีแนวคิดที่แตกต่างกัน

ทั้งสองเหตุการณ์จึงสะท้อนถึงความเลวร้ายที่สังคมมิอาจจะยอมรับ จึงขอประณามการกระทำของผู้ก่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่ไร้มนุษยธรรม ผิดต่อกฎหมาย ละเมิดสิทธิมนุษยชน และหลักมนุษยธรรมดังกล่าว และขอแสดงความเสียใจยังครอบครัว ญาติมิตร และประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อเหตุการณ์อันเศร้าสลดนี้ โดยขอเสนอแนะให้ทุกภาคส่วนคำนึงและปฏิบัติดังนี้

1.ขอให้ผู้ที่ก่อเหตุการณ์ความรุนแรงยุติการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม ผิดกฎหมาย และละเมิดสิทธิมนุษยชนทันที และได้สำนึกบาปต่อการกระทำดังกล่าว และหันกลับมาสร้างสันติสุข โดยต้องยุติการนำศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง

2.รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พึงเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว และดำเนินการให้ความช่วยเหลือ เยียวยาความเสียหาย ฟื้นฟูจิตใจและความบอบช้ำของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ตลอดจนเพิ่มมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อย แก่ประชาชนในพื้นที่ให้เข้มงวดยิ่งขึ้น

3.ประชาชน และภาคประชาสังคมในพื้นที่ควรร่วมมือกับหน่วยงานรัฐ เฝ้าระวัง เพื่อป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง การสร้างสถานการณ์ต่าง ที่บั่นทอนขวัญ และทำให้เกิดความหวาดกลัว ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานและการบรรลุเป้าหมายในการสร้างสันติสุขในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ กสม.จะติดตามสถานการณ์และตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างใกล้ชิด และพร้อมให้การสนับสนุนทุกภาคส่วนเพื่อสร้างสังคมแห่งการเคารพสิทธิมนุษยชนที่จะนำไปสู่การคืนความสงบสุขแก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป