posttoday

ฉายา11บิ๊กตำรวจปี61 จักรทิพย์"ลูกผู้ชายที่ชื่อ แป๊ะ"-ศรีวราห์ "นายพล License"

23 ธันวาคม 2561

สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมฯ เผยฉายา 11 บิ๊กตำรวจปี61 "จักรทิพย์ ลูกผู้ชายที่ชื่อ แป๊ะ "ศรีวราห์" นายพล License "สุรเชษฐ์" มือปราบดอกเบี้ยโหด

สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมฯ เผยฉายา 11 บิ๊กตำรวจปี61 "จักรทิพย์ ลูกผู้ชายที่ชื่อ แป๊ะ "ศรีวราห์" นายพล License "สุรเชษฐ์" มือปราบดอกเบี้ยโหด

สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย โดยนายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมฯ พร้อมด้วยตัวแทนจากสื่อต่างๆ ได้ร่วมกันคัดเลือกและพิจารณา การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดปีที่ผ่านมา เปิดเผยฉายาตำรวจประจำปี 2561 จำนวน 11 นาย

นายไพโรจน์ กว่าว่า ทางผู้สื่อข่าวสายอาชญากรรมได้ทำงานใกล้ชิดกับแหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนจะนำผลงานต่างๆ มาเสนอต่อสายตาประชาชนจนเป็นที่ยอมรับของสังคม และตลอดเวลาที่ผ่านมา สื่อมวลชนได้ดูการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในรอบปี ทางสมาคมฯ จึงได้ร่วมตั้งฉายาตำรวจประจำปีขึ้นทุกปี ซึ่งเกณฑ์ในการตั้งได้ประชุมร่วมกับผู้สื่อข่าวจากแขนงต่างๆ ซึ่งเป็นตัวแทนจากสื่อมวลชนสังกัดต่างๆ มีการเสนอชื่อนายตำรวจเข้ามาและทำการคัดเหลือ 11 นายด้วยกันมีดังนี้

ลำดับที่ 1 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คำนิยาม “ลูกผู้ชายที่ชื่อ แป๊ะ” ในปีนี้ผู้สื่อข่าวลงความเห็นว่าจะไม่มีการตั้งฉายาให้กับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ (ผบ.ตร.) แต่ได้เปลี่ยนเป็นการให้คำนิยามตาม ภาพที่เห็นแทน เพราะปีที่ผ่านมาท่านได้ลงพื้นที่ทำงานและดูแลคดีใหญ่ๆด้วยตัวเองแทบทั้งสิ้น อีกทั้งยังร่วมทุกข์ร่วมสุขกับผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างเป็นกันเองโดยไม่ถือตัวถือยศถือตำแหน่งจนทำให้ได้ใจลูกน้องไปเต็มๆเรียกได้ว่าไม่มีคำบรรยายใดๆจริง สำหรับ “ลูกผู้ชายที่ชื่อแป๊ะ”

ลำดับที่ 2. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายา “ซานต้า อวบ” เนื่องมาจากการลงพื้นที่แถลงข่าวและดูการทำงานของผู้ใต้บังคับบัญชาในทุกพื้นที่ๆมีผลงานการจับกุมคดีต่างๆ ทั้งเล็กและใหญ่ทุกครั้งที่ลงพื้นที่ท่านไม่เคยทอดทิ้งผู้ใต้บังคับบัญชาให้ทำงานเหนื่อยแต่เพียงลำพัง โดยจะมีการมอบรางวัลให้กับชุดทำงานเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้งไป จนเป็นที่มาของฉายา “ซานต้า อวบ ”

ลำดับที่ 3. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายา “นายพล License” จากกรณีที่ท่านได้ลงพื้นที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย เพื่อตรวจดูการช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่า ภายในถ้ำ ซึ่งขณะเดินตรวจการทำงานของเจ้าหน้าที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ มีการสอบถามเจ้าหน้าที่ๆกำลังทดสอบบินโดรน โดยมีการตั้งคำถามว่ามีใบอนุญาตหรือเปล่า จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก ซึ่งต่อมาพล.ต.อ.ศรีวราห์ ก็ได้มีการชี้แจงว่าการบินโดรนต้องได้รับอนุญาตจาก กสทช. ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐต้องทำให้ถูกต้องเพื่อเป็นตัวอย่าง และหากนำโดรนหลาย ตัวไปบินโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่มีการควบคุม อาจทำให้ขัดขวางการปฎิบัติงานส่วนอื่น เช่น การนำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นไปบินค้นหาก็จะทำไม่ได้ จนเป็นที่มาของ ฉายา “นายพล License”

ลำดับที่ 4. พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายา “นายพล ล้านวิว” ถือได้ว่าเป็นนายตำรวจน้ำดีอีกท่านหนึ่งที่มีประชาชนติดตามการทำงานเป็นจำนวนมาก มีผลงานปรากฏต่อสายตาประชาชนในการทำคดีต่างๆมากมาย โดยเฉพาะการลงพื้นที่ช่วยเหลือค้นหาทีม 13หมูป่า ที่ถ้ำขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ซึ่งถือว่าเป็นนายพลตำรวจคนแรกที่ลงพื้นที่ นำทีมเดินค้นหาอยู่และนอนในป่าแบบเรียบง่าย อีกทั้งเป็นนายตำรวจที่มี สัจจะวาจา บวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้าแม่ดอยนางนอน ที่คุ้มครองน้องๆ 13 คนจนปลอดภัย ซึ่งทำให้มีผู้ติดตามดูข่าวการทำงานของท่านผ่านทางโซเชียล เป็นจำนวนมากถึง 4 ล้าน 7 แสน คน เรียกได้ว่าเป็นนายตำรวจขวัญใจประชาชนอย่างแท้จริง จึงเป็นที่มาของฉายา “นายพล ล้านวิว ”

ลำดับที่ 5. พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายา “เด่น ปักกลด” เนื่องจากตอนที่ท่านดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค.3 ได้จัดทำโครงการประชารัฐร่วมใจ ต้านภัยยาเสพติด (ปักกลด) โดยให้ตำรวจไปปฏิบัติหน้าที่ในหมู่บ้าน ชุมชนที่มียาเสพติดแพร่ระบาด แบบไปกินนอนในหมู่บ้าน ชุมชนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของชุมชนในเรื่องต่างๆ และแสวงหาความร่วมมือจากประชาชน และกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาอาชญากรรม ปัญหายาเสพติดร่วมกัน อันจะก่อให้เกิดการพัฒนาเป็นชุมชนเข้มแข็งปลอดยาเสพติดอย่างยั่งยืน โดยโครงการนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และมีการนำเอาไปใช้ในหลายจังหวัด จนเป็นที่มาของฉายา “เด่น ปักกลด ”

ลำดับที่ 6. พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ฉายา “สวาทแคท “( S.W.A.T CAT) ครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้ให้ความสนใจคดีคดีโจรผัวเมียอุ้มหมา อุ้มแมว ตระเวนลักทรัพย์ ไปหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่องนานกว่า 15 ปี ได้ทรัพย์สินไปกว่า 20 ล้านบาท สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนสุดท้ายก็สามารถตามจับตัวมาได้ทั้งสองคน รวมทั้งยังให้ความสำคัญหน่วย S.W.A.Tในสังกัด ส่งทีมไปแข่งขัน และคว้ารางวัลชนะเลิศมาครอง จึงเหมาะกับฉายา” สวาท แคท” (S.W.A.T CAT)

ลำดับที่ 7. พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้รับฉายา “นายพล ตีนตุ๊กแก” เรียกได้ว่ายึดตำแหน่งเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ทั้งๆที่ปีที่ผ่านมาในพื้นที่มีคดีอาชญากรรมใหญ่ๆเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นชิงทรัพย์ร้านทอง ปล้นรถขนเงิน ตัดตู้เอทีเอ็ม ที่ยังจับไม่ได้ ยาเสพติด แต่ยังได้รับความไว้วางใจให้ดูแลพื้นที่ต่อ จึงเป็นที่มาของ ฉายา “ นายพล ตีนตุ๊กแก ”

ลำดับที่ 8. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้รับฉายา “มือปราบดอกเบี้ยโหด” จากกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เล็งเห็นความเดือนร้อนของชาวบ้าน เกี่ยวกับเรื่องเงินกู้นอกระบบ จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ลุย ปราบปรามแก๊งเงินกู้นอกระบบ ดอกเบี้ยโหด ได้อย่างจริงจังสามารถยึดโฉนดที่ดิน นำกลับมาคืนให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จำนวนกว่า 10,000 ฉบับ เนื้อที่รวม กว่า 3 หมื่นไร่ มูลค่ามากกว่า 13.000 ล้านบาท จนเป็นที่มาของฉายา “มือปราบดอกเบี้ยโหด ”

ลำดับที่ 9. พล.ต.ต.สุทธิ พวง พิกุล อดีต ผู้บังคับการภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ได้รับฉายา “ผู้การหวยเด้ง” จากคดีแย่งสิทธิ์หวย 30 ล้านบาท ถึงแม้จะมีการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วและอยู่ระหว่างการพิจารณาคดี จากกรณีดังกล่าวทำให้ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ที่ดำรงตำแหน่งผู้บังคับการภูธรตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ในขณะนั้น ถูกหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องไม่ทางใดก็ทางหนึ่งในการทำคดีนี้ จนถูกคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งผู้บังคับการภูธรจังหวัดกาญจนบุรี มาปฏิบัติงานที่ ศปก.ตร. จนเป็นที่มาของฉายา “ผู้การหวยเด้ง ”

ลำดับที่ 10. พล.ต.ท.ชินพัฒน์ สารสิน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้รับฉายา “บิ๊กป๋อ สายโหด” เห็นบุคลิกท่านเป็นคนยิ้มแย่มแจ่มใสเรียบร้อย แต่หลังจากเข้ามารับตำแหน่งดูแลปราบปรามด้านยาเสพติดได้เพียง 3 เดือน ลูกน้องวิสามัญแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ไปแล้ว 2 ราย แถมขยายผลไปจับกุมคนร้ายและลุยยึดทรัพย์ไปแล้วกว่า 180 ล้าน ในระยะเวลาสั้นๆทำให้กลุ่มพวกค้ายาเสพติดหวาดกลัว จึงเป็นที่มาของ ฉายา “บิ๊ก ป๋อ สายโหด ”

อันดับที่ 11 พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น.ฉายา “หลวงที่ถูกลืม” พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ มีชื่อเล่นว่า “หลวง” ในปี 2559 ได้รับมอบหมายให้ดูแลงานมั่นคง มีงานสำคัญ ได้แก่ การดูแลความสงบเรียบร้อย การตัดสินคดีรับจำนำข้าว ที่มีอดีตนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นจำเลย แม้ว่าในวันตัดสินคดี อดีตนายกฯ จะไม่มาฟังคำพิพากษา แต่มีมวลชนมาให้กำลังใจมากถึง 3-4 พันคน ก็สามารถบริหารจัดการดูแลสถานการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ปี 2561 ได้รับมอบหมายให้ดูแลงานป้องกันปราบปรามช่วงบอลโลกปราบปรามการพนันฟุตบอลโลก จับกุมผู้ต้องหาได้เป็นจำนวนมากอายัดเงินในบัญชีเจ้ามือ และผู้เล่น ได้มากกว่า 100 ล้านบาท

ถือว่าเป็นนายตำรวจน้ำดี ที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจและมีวิสัยทัศน์ในการทำงาน สามารถทำงานตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายได้สำเร็จลุล่วง อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อ ปี 2559 ได้รับฉายาจากสื่อมวลชนว่า “หลวงตามสั่ง” จาก 3 ปีที่ผ่านมาเมื่อมีการพิจารณาแต่งตั้งยศที่สูงขึ้น พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กลับไม่ได้รับการเสนอชื่อแต่งตั้งจึงเป็นที่มาของฉายา “หลวงที่ถูกลืม”