คนไทยป่วยโรคไม่ติดต่อแซงหน้าโรคติดต่อปีละกว่า3แสนคน

สมัชชาสุขภาพแห่งชาติเร่งถกหาทางแก้ปัญาหาคนไทยป่วยโรคไม่ติดต่อแซงหน้าโรคติดต่อปีละกว่า3แสนคน

นพ.กิตติศักดิ์ กลับดี  ที่ปรึกษารมว.สาธารณสุข(สธ.) เปิดเผยว่า  คณะกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ (คจ.สช.) ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) เตรียมความพร้อมเวทีสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 11 ปี 2561 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-14 ธ.ค. ณ ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นับเป็นก้าวแรกของการ เริ่มทศวรรษใหม่ของสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ภายใต้แนวคิด “รู้เท่าทันสุขภาพ ร่วมสร้างสังคมสุขภาวะ”เน้นย้ำความสำคัญของ ระบบสุขภาพในลกยุค 4.0 มีระเบียบวาระสำคัญ ทั้งสิ้น 4 เรื่อง

ทั้งนี้ประกอบ 1.ประเด็นความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา  โรคไม่ติดต่อ ซึ่งเป็นประเด็นที่มุ่งให้ประชากรในประเทศมีความรอบรู้ด้านสุขภาพและห่างไกลปัญหาโรคไม่ติดต่อ หรือ NCDs ซึ่งเป็นต้นเหตุการเสียชีวิตของคนไทยมากถึง70% แซงหน้าโรคติดต่อ ส่วนใหญ่ มีสาเหตุมาจากโรคไม่ติดต่อ ซึ่ง แตกต่างจากในอดีตที่มาจากโรคติดต่อ เห็นได้จากตัวเลขการเสียชีวิตของคนที่เป็นโรคไม่ติดต่อ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ปัญหาเส้นโลหิตในสมอง และโรคไตนั้น มีจำนวนกว่า 3 แสนคนต่อปี  โดยเน้นการขับเคลื่อนที่อาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ผ่านมาตรการต่างๆ

2. ประเด็นการร่วมสร้างสรรค์พื้นที่สาธารณะในเขตเมืองเพื่อสุขภาวะสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นการเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมสร้างสรรค์ให้มีพื้นที่สาธารณะเพื่อสุขภาวะ ที่พลเมืองสามารถเข้าถึงได้โดยปราศจากความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมในเขตเมือง

3. ประเด็นความรับผิดชอบร่วมทางสังคมเกี่ยวกับอีสปอร์ตต่อสุขภาวะเด็ก เป็นประเด็นที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องควรร่วมสร้างความเข้าใจและรู้เท่าทันอีสปอร์ต เพื่อให้สังคมปัจจุบันโดยเฉพาะเด็กสามารถอยู่ร่วมกับอีสปอร์ตได้อย่างปลอดภัย

และ4.การคุ้มครองผู้บริโภคด้านบริการทันตกรรม เป็นประเด็นที่มุ่งคุ้มครองผู้บริโภคทางทันตกรรม เพื่อให้ประชาชนทุกคนมีสุขภาพฟันและช่องปากที่ดี ได้รับสิทธิประโยชน์ที่จำเป็นพื้นฐานทางทันตกรรมอย่างเท่าเทียมกัน สามารถเข้าถึงบริการทันตกรรมในราคาที่เหมาะสม และได้รับความคุ้มครองความปลอดภัย

นพ.กิตติศักดิ์ กล่าวอีกว่า การประชุมครั้งนี้มีทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์การป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อก่อนนำเสนอให้รัฐบาลตลอดหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องรับทราบและพิจารณาดำเนินการต่อไป