posttoday

"อัจฉริยะ" ร้อง ปปง. เอาผิด "ประจักษ์ชัย-ภรรยาและลำไย" ฐานร่วมกันฟอกเงิน

31 ตุลาคม 2561

นายอัจฉริยะ ร้อง ปปง.ให้เอาผิด นายประจักษ์ชัย ภรรยาและน.ส.สุพรรณษา ฐานร่วมกันฟอกเงิน-เผยเลี่ยงภาษีช่วงปี 59-60

นายอัจฉริยะ ร้อง ปปง.ให้เอาผิด นายประจักษ์ชัย ภรรยาและน.ส.สุพรรณษา ฐานร่วมกันฟอกเงิน-เผยเลี่ยงภาษีช่วงปี 59-60

เมื่อวันที่ 31 ต.ค.  นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ไพรัตน์ เทศพานิช เลขานุการกรม สำนักงาน ปปง. เพื่อยื่นหนังสือขอให้ช่วยตรวจสอบการเลี่ยงการเสียภาษีของบุคคล 3 คน ประกอบด้วย นายประจักษ์ชัย เนาวรัตน์ , นางโยษิตา เนาวรัตน์ ภรรยานายประจักษ์ชัย และ น.ส.สุพรรณษา เวชกามา หรือ ลำไย ไหทองคำ ตามมาตรา 37 ตรี และ มาตรา 37 ทวิ ประมวลรัษฏากรฐานร่วมกันฟอกเงิน

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า ช่วงค่ำวานนี้มีคนกลางโทรศัพท์มาหาตน เพื่อขอค่าฉีกสัญญาของ อาม ชุติมา จำนวน 2 ล้านบาท ให้นายประจักษ์ชัย ที่สัญญาเหลืออีก 2 ปี 7 เดือน แต่ตนมองว่าไม่ควรจ่ายเพราะที่ผ่านมาถูกเอาเปรียบมาตลอดและ อาม ชุติมา ก็ไม่มีเงินมากพอขณะนั้น โดยในสัญญาระบุเพียงว่า หากผิดสัญญาถึงสามารถฟ้องทางแพ่งได้ รวมทั้ง ตามกฎหมายภาษีอากรของกรมสรรพากร ซึ่งแก้ไขใหม่ได้กำหนดให้ความผิดฐานหลีกเลี่ยงภาษี ฉ้อโกงภาษี ขอคืนภาษีเป็นเท็จ เป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายฟอกเงิน จึงมายื่นหนังสือต่อ ปปง. ให้ช่วยตรวจสอบความผิดฐานฟอกเงินกับ นายประจักษ์ชัยและพวก เพราะมีรายได้รวมกันมากกว่า 100 ล้านบาท

"ช่วงระหว่างปี 59-60 บริษัท ไหทองคำ เรคคอร์ด จำกัด ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่เพิ่งมาจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เมื่อวันที่ 30 ม.ค.61 โดยมีชื่อภรรยาของนายประจักษ์ชัยเป็นเจ้าของบริษัทแต่เพียงผู้เดียว นอกจากนี้ พบว่า บุคคลทั้ง 3 มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี และไม่เคยเสียภาษี ซึ่งกฎหมายสรรพากร ระบุว่า บุคคลที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม อย่างไรก็ตาม จะให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่สรรพากรบางราย เพราะอาจมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย" นายอัจฉริยะ กล่าว

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องไว้ตรวจสอบตามขั้นตอน ก่อนพิจารณาตามกระบวนการกฎหมายต่อไป

"อัจฉริยะ" ร้อง ปปง. เอาผิด "ประจักษ์ชัย-ภรรยาและลำไย" ฐานร่วมกันฟอกเงิน