posttoday

น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมริมฝั่ง

26 ตุลาคม 2553

น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมท่าน้ำศิริราช-ตลาดวังหลัง หลังน้ำหนุนสูงช่วงเย็น กทม.ยันยังรับมือได้เพราะแนวคันกั้นน้ำรวมกระสอบทรายสูง2.80เมตร 

น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมท่าน้ำศิริราช-ตลาดวังหลัง หลังน้ำหนุนสูงช่วงเย็น กทม.ยันยังรับมือได้เพราะแนวคันกั้นน้ำรวมกระสอบทรายสูง2.80เมตร 

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ หลังจากที่ในช่วงระหว่างวันที่ 26-27ต.ค. ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลังจากที่กรมอุทกศาสตร์กองทัพเรือ ได้รายงานว่าระดับน้ำจะเพิ่มปริมาณสูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1.86 เมตรในเวลา 18.44น. น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ได้เอ่อเข้าท่วมพื้นที่ภายใน ท่าเทียบเรือศิริราชและตลาดวังหลัง แต่ระดับน้ำที่เอ่อเข้ามามีปริมาณไม่มากนัก โดยบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ที่อยู่ในตลาดต่างพากันเก็บของหนีน้ำ

อย่างไรก็ตามทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้เตรียมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ไว้ภายในพื้นที่ตลาดวังหลังเพื่อให้สามารถระบายน้ำได้ทันท่วงทีหากน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมในปริมาณมาก ซึ่งภาพรวมสถานการณ์ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในขณะนี้ยังอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง เพราะระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้น โดยในช่วงน้ำหนุนสูง น้ำได้เอ่อเข้าท่วมในหลายชุมชนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก

กทม.เร่งอุดจุดฟันหลอนอกแนวคันกั้นน้ำ

ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. พร้อมคณะผู้บริหาร ได้ลงพื้นที่ตรวจระดับน้ำที่ท่าราชวรดิฐ ในช่วงบ่ายที่ผ่านมาโดยมีนายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ รายงานถึงสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจากการวัดปริมาณระดับน้ำที่ปากคลองตลาด เมื่อเวลา 13.05 น. พบว่าระดับลดลงเหลือเพียง 1.61 เมตร ซึ่งลดลงจากเมื่อเวลา 09.15 น. ที่ระดับสูงสุดวัดได้ 2.10 เมตร

 ทั้งนี้ ทาง กทม.คาดว่าจะสามารถรองรับน้ำได้ โดยระดับเขื่อนคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยามีความสูง 2.50 เมตร อีกทั้งยังเสริมแนวเขื่อนด้วยกระสอบทรายอีก 30 เซนติเมตร จึงคาดว่าจะรับน้ำที่เอ่อล้นตลิ่งเข้ามาในเขต กทม.ได้

นอกจากนี้ กทม.ได้จัดเตรียมเครื่องสูบน้ำขนาด 20 นิ้ว จำนวน 2 ตัว สามารถสูบน้ำได้ 1 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีต่อเครื่อง เพื่อระบายน้ำท่วมขังบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง ท่าช้าง และท่าเตียน ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างทันท่วงที

ส่วนพื้นที่ที่ยังไม่สามารถสร้างแนวเขื่อนกั้นน้ำเจ้าพระยาได้ หรือที่เรียกว่าจุดฟันหลอ มีเพียงชุมชนราชผาทับทิมร่วมใจ เขตดุสิต จำนวน 2 หลังคาเรือน และชุมชนสันติชนสงเคราะห์ เขตบางกอกน้อย จำนวน 18 หลังคาเรือน ที่ยังไม่ยินยอมรื้อถอนออกจากพื้นที่ ซึ่งทาง กทม.จะเร่งเจรจาต่อไปเพื่อดำเนินการสร้างจุดที่เหลือให้แล้วเสร็จภายในปี 2554 แต่เบื้องต้น กทม.ได้นำกระสอบทรายมาอุดจุดฟันหลอไว้ก่อน รวมถึงเตรียมอพยพขนย้ายสิ่งของ และอาหาร เวชภัณฑ์ หากกรณีนี้มีเหตุฉุกเฉิน

กรมชลฯเชื่อมาตรการลดปริมาณน้ำได้ผล

นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน ยืนยันว่า มาตรการ 4 อย่างที่ประกาศไป เพื่อลดปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ประสบความสำเร็จ เพราะสถานการณ์ภาพรวมดีขึ้น ระดับน้ำลดลงในช่วงน้ำทะเลหนุน และระดับน้ำไม่เกินแนวป้องกันน้ำท่วมของกรุงเทพมหานคร โดยขณะนี้น้ำมีระดับต่ำกว่าเขื่อน 10 เซนติเมตร โดยมาตรการทั้ง 4 ข้อนี้ จะใช้แค่ในระยะเวลาสั้นๆ และคาดว่าจะยกเลิกภายในวันพรุ่งนี้

อย่างไรก็ตามกรมชลประทานยังคงเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนอีกครั้งในวันที่ 8 พ.ย.

********************

สภาพบ้านเรือนประชาชนในย่านชุมชนวัดฉัตรแก้วจงกลณี ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เขตบางพลัด ที่ถูกน้ำจากเจ้าพระยาเอ่อท่วม หลังเพิ่มระดับขึ้นสูงกว่า 2.10 เมตร จากระดับน้ำทะเล / ภาพ : ณัฏฐ์ฐิติ อำไพวรรณ

น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมริมฝั่ง

 

น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมริมฝั่ง

 

น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมริมฝั่ง

 

น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมริมฝั่ง

 

น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมริมฝั่ง

 

น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมริมฝั่ง