posttoday

"พ่อค้าส้มตำ"ร้องกองปราบรับโอนคดีถูกตำรวจรีดเงิน

18 กันยายน 2561

ทนายพา "พ่อค้าส้มตำ" อุ้มรีดเงินร้องกองปราบรับโอนคดี หลังถูกมือมืดส่งจดหมายข่มขู่เอาชีวิต

ทนายพา "พ่อค้าส้มตำ" อุ้มรีดเงินร้องกองปราบรับโอนคดี หลังถูกมือมืดส่งจดหมายข่มขู่เอาชีวิต

จากกรณี นายศักดิ์ชัย แน่นอุดร อายุ 49 ปี พ่อค้าส้มตำ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.พญาไท เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจและพวก เรียกรับเงินสินบน 50,000 บาท ต่อมาพบว่ามีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง 7 นาย จนทางผู้บังคับบัญชาสั่งย้ายตามที่ได้เคยมีการนำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าวล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ก.ย. นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมและทนายความ ได้พานายศักดิ์ชัย เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ปราโมทย์ ศุขศรีไพศาล รอง สว.สอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรมให้ทางตำรวจกองปราบช่วยรับโอนคดีดังกล่าวมาทำการสืบสวนสอบสวน

นายรณณรงค์ กล่าวว่า การเดินทางมาเข้าพบตำรวจกองปราบฯในวันนี้ก็เพื่อต้องการให้ทางกองปราบฯรับโอนคดีดังกล่าวมาอยู่ในความรับผิดชอบ เพื่อจะได้จัดตั้งชุดสืบสวนเข้ามาช่วยคลี่คลายคดีดังกล่าว เพราะถึงแม้คดีดังกล่าวจะกลายเป็นข่าวดังอยู่ในความสนใจของสังคม แต่กลับพบว่ายังมีการส่งจดหมายมาข่มขู่เอาชีวิตผู้เสียหาย จึงทำให้นายศักดิ์ชัย เกิดความหวาดกลัวใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวงเนื่องจากไม่มันใจในความปลอดภัยของชีวิต จึงอยากให้ทางกองปราบฯเข้ามาช่วยทำคดีดังกล่าวแทน รวมถึงช่วยตรวจสอบที่ไปที่มาของจดหมายข่มขู่ดังกล่าวและช่วยคุ้มครองพยาน เพราะเชื่อว่ากองปราบเป็นที่พึ่งสุดท้ายที่ไว้ใจได้มากที่สุด และเชื่อว่าจะสามารถให้ความเป็นธรรมได้กับทั้ง 2 ฝ่าย

"การทำคดีที่ผ่านมา สน.พญาไท ไม่ได้มีการทำคดีผิดปกติแต่อย่างใด เพียงแต่ไม่ไว้วางใจเพราะเกรงว่าจะให้การช่วยเหลือกัน"นายรณณรงค์ กล่าว

นายศักดิ์ชัย กล่าวว่า สำหรับจดหมายข่มขู่ดังกล่าว ตนได้ส่งให้กับทางพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เก็บไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบที่ไปที่มา ตัวอย่างลายนิ้วมือแฝง เพื่อหาตัวผู้ที่ส่งจดหมายดังกล่าวมาให้กับตน อย่างไรก็ตามสำหรับสาเหตุที่เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นมานั้นตนเชื่อน่าจะมีส่วนมาจากการที่ลูกชายของตนเคยไปมีปัญหากับผู้ร่วมก่อเหตุบางคน

ด้านพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำนายศักดิ์ชัย ไว้ในเบื้องต้น ก่อนจะรวบรวมเรื่องราวทั้งหมดส่งต่อให้กับทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เนื่องจากเป็นคดีเกี่ยวกับการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ