ผู้ต้องหาเอี่ยวคดีอมเงินตำรวจมอบตัวแล้ว16รายคืนเงินสด2ล้าน

ผู้ต้องหาคดีอมเงินตำรวจเลยร่วม "ผู้การสุทิพย์" เข้ามอบตัวแล้ว 16 ราย คืนเงินสด 2 ล้านบาท เผยเศรษฐีรายใหญ่เชียงใหม่จ่อเข้ามอบตัว

เมื่อวันที่ 17 ก.ย. เวลา 19.30 น. ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนคดีสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย กองบัญชาตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่น พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รอง ผบช.สกบ. (รองผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์รับเรื่องคดีสหกรณ์ออมทรัพย์ ภ.จว.เลย พร้อมด้วย พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รอง ผบช.ภ.4 ประชุมร่วมชุดสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามความคืบหน้า คดีการทุจริตโครงการรวมหนี้และโครงการบริหารหนี้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย

พล.ต.ต.กฤษกร กล่าวว่า คดีดังกล่าวมีความคืบหน้าอย่างมาก ซึ่งคณะทำงานร่วมชุดสืบสวนสอบสวนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งมาทำงานร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค4 ที่ได้มีการร่วมกนสืบสวนสอบสวนจนพบสืบทราบแน่ชัดว่าผู้ต้องหาในคดีนี้เบื้องต้นมีทั้งสิ้น 17 คน โดยมี พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช รอง ผบช.สกพ. (รอง ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล)สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อดีต ผบก.ภ.จว.เลย และ น.ส.ธิญาดา วิภาวรกานต์ เป็นตัวการใหญ่ และทั้งสองคนได้เดินทางมามอบตัวกับพนักงานสอบสวนและรับทราบข้อกล่าวหาเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่างการประกันตัว

"คดีดังกล่าวนี้นั้นคณะทำงานร่วม สตช.และ บช.ภ.4 เป็นทีมงานใหม่ทั้งหมด โดยนอกจากการเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนทางคดีแล้ว ยังคงมีการการสอบสวนเส้นทางการเงินของ พล.ต.ต.สุทิพย์ ที่เชื่อมโยงไปยัง น.ส. ธิญาดา และเส้นทางการเงินก็เชื่อมโยงไปยังเครือข่ายทางภาคเหนือ โดยที่เจ้าหน้าที่ได้จับกุมเครือข่ายรายดังกล่าวเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา และจนถึงขณะนี้คดีดังกล่าวมีผู้ต้องหาเข้ามอบตัวและเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้ว 16 ราย และมีการนำเงินสดที่พัวพันกับคดีดังกล่าว มามอบให้กับทางพนักงานสอบสวนแล้วรวมกว่า 2,000,000 บาท และในวันที่ 18 ก.ย. จะมีผู้ต้องหารายสำคัญเป็นนักธุริจชื่อดังจากจังหวัดเชียงใหม่เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมอีก 2 ราย"

พล.ต.ต.กฤษกร กล่าวอีกว่า ในคดีที่เกี่ยวข้องกับพล.ต.ต.สุทิพย์ นั้น การสืบสวนสอบสวน หากเชื่อมโยงกับใคร ตำรวจกจะเรียกตัวมาสอบปากคำทั่งหมด หากพบการกระทำความผิดก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเช่นกัน สำหรับในส่วนของข้าราชการตำรวจที่มีรายชื่อพัวพันกับคดีความดังกล่าวนี้ จำนวน 20 คนนั้น ขณะนี้บัญชีรายชื่อทั้งหมดอยู่ที่กองวินัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว เพื่อทำการตรวจสอบเป็นรายๆไปหากมีใครเข้าข่ายหรือมีส่วนพัวพันในคดีในรูปแบบใด ก็จะมีการดำเนินคดีทั้งทางวินัยตำรวจและทางอาญาเช่นกัน