ค้นบ้านเสี่ยตลาดหุ้น จ่อขอหมายจับเพิ่ม6รายโกงบิตคอยน์

ตำรวจบุกค้นบ้าน "เสี่ยประสิทธิ์" หาหลักฐานไล่ล่ากลุ่มโกงเงินสกุลดิจิทัล เตรียมออกหมายจับเพิ่มอีก 6 ราย

หลังกองปราบปรามได้จับกุมนาย จิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต หรือบูม นักแสดงหนุ่ม คดีร่วมกันฟอกเงิน ที่หลอกลงทุนเงินสกุลดิจิทัล (บิตคอยน์) มูลค่ากว่า 745 ล้านบาท ล่าสุด พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผู้บังคับการกองปราบปราม หัวหน้าพนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า กำลังเสนอต่อศาลออกหมายจับเพิ่มเติมอีกประมาณ 5-6 คน ในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์

ทั้งนี้ จากแนวทางการสืบสวนพบว่า นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ อดีตผู้บริหารบริษัท แอพเพิล เวลธ์ อาจจะมีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ซึ่งในช่วงสัปดาห์ก่อนได้เข้าตรวจค้นบ้านพักนายประสิทธิ์ ซึ่งได้นำเอกสารมาตรวจสอบ โดยอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน

พ.ต.อ.ชาคริต กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบบริษัททั้ง 3 แห่งที่กลุ่มผู้ต้องหาหลอกให้ผู้เสียหายซื้อหุ้นร่วมลงทุน ซึ่งมีการเปิดทั้งในประเทศไทยและที่ฮ่องกงนั้น พบว่านายปริญญา จารวิจิต ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าวจริง และยัง พบว่ามีคนในตระกูลจารวิจิตเข้าไปมีส่วนร่วม ด้วย และบางบริษัทที่มีการแอบอ้างกับ ผู้เสียหายนั้นไม่มีตัวตนจริง

สำหรับผู้ที่จะถูกออกหมายจับอีก 6 ราย ประกอบด้วย 1.เสี่ย ป. นักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ พร้อม 2.นาย ป.ปัณ และ 3.นาย ณ. ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงในบริษัทของเสี่ย ป. 4.นาย ธ. ญาติของนายจิรัชพิสิษฐ์ นักแสดงหนุ่ม 5.นาย ช. ผู้ใกล้ชิดนายปริญญา ซึ่งเป็นผู้เสนอแผนการลงทุนต่อผู้เสียหายชาวฟินแลนด์ และ 6.นายชัช

ด้านแหล่งข่าวเปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้บริหารของบริษัท บิทคอยน์ ได้ยืนยันว่ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (อีวอลเล็ต) ที่นายอาร์นีโอนเหรียญบิตคอยน์ ไปให้นั้น เป็นของนายปริญญา น.ส.สุพิชฌาย์  นายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต (ผู้ต้องหาซึ่ง ถูกออกหมายจับแล้ว) นาย ธ. นาย ช. เสี่ย ป. และนายชัช โดยหลังจากที่โอนเหรียญบิตคอยน์เข้าบัญชีแล้ว ก็มีการทยอยขายเหรียญบิตคอยน์ และถอนเงินเข้าบัญชีทั้ง 7 คน

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ตรวจสอบวิเคราะห์ข้อมูลธุรกรรมทางการเงินของกลุ่มผู้ต้องหาตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค. 2560 ซึ่งเป็นวันที่นายอาร์นีเริ่มโอน พบข้อมูลการทำธุรกรรมที่สถาบันการเงินรายงาน ปปง. เฉพาะของบริษัท บิทคอยน์ ที่โอนให้กลุ่มนายปริญญา รวม 98 ครั้ง เป็นเงินกว่า 606 ล้านบาท

ขณะที่นายจิรัชพิสิษฐ์ ซึ่งพนักงานสอบสวนกองปราบปรามนำไปขอฝากขัง ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยเห็นว่าผู้ต้องหาไม่มีส่วนร่วมเจรจากับผู้เสียหายให้มาลงทุน และไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ซึ่งญาติใช้เงินสด 2 ล้านบาทประกันตัว