"อัจฉริยะ" แจ้งความเอาผิด "ร่างทรงไฮเทค4.0" แอบอ้างเบื้องสูง

ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมนำทีมแจ้งความกองปราบฯเอาผิด "ร่างทรงไฮเทค4.0" แอบอ้างเบื้องสูง แพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วย นายธนัท ชัยวชิระศักดิ์ หรือ นัทแฟนพันธ์แท้จตุคามรามเทพ และประธานชมรมเรารักพระพุทธศาสนา และ “บี ฟักโกสต์” แอดมินเพจสมาคมต่อต้านสิ่งงมงาย(FuckGhost เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.สมเจตน์ แก้วสีดำ รองสารวัตรสอบสวน กองกำกับการ 1 กองปราบปราม เพื่อแจ้งความเอาผิดกับ น.ส.แสงสุริยเทพ พระมหาสุริยะ อายุ 49 ปี หรือ "ร่างทรงไฮเทค 4.0" เจ้าของสำนักร่างทรงแห่งหนึ่งย่านรัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี โดยนำคำพิพากษาคดีต่างๆเกี่ยวกับกรณีการแอบอ้างเบื้องสูงและแผ่นซีดีบันทึกภาพพฤติกรรมของร่างทรงขณะหลอกลวงผู้คนมามอบให้กับทางพนักงานสอบสวนประกอบการพิจารณา

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า สำหรับการเดินทางมาเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯในวันนี้ก็เพื่อต้องการแจ้งความเอาผิด น.ส.แสงสุริยเทพ ที่มีการถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊คไลฟ์อ้างว่าเป็นร่างทรงของอดีตพระมหากษัตริย์ไทย อาทิ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และการกระทำดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ และการกระทำดังกล่าวถือว่าเข้าข่ายความผิดในข้อหาเผยแพร่ข้อมูลเป็นเท็จผ่านระบบคอมพิวเตอร์ และยังถือเป็นการดูหมิ่นอดีตพระมหากษัตริย์ซึ่งสวรรคตไปแล้ว ในความผิดตามมาตรา 112

ด้าน นายธนัท กล่าวว่า ได้รวบรวมข้อมูลหลักฐานการกระทำผิดต่างๆของบรรดาผู้ที่อ้างตนว่าเป็นร่างทรงในลักษณะนี้ ซึ่งพบว่ามีเป็นจำนวนมาก โดยพฤติกรรมของกลุ่มคนพวกนี้มักจะอ้างตนว่าเป็นร่างทรงต่างๆนานา ก่อนจะหลอกลวงเอาทรัพย์สินจากกลุ่มคนที่หลงเชื่อ โดยอ้างว่าเป็นการทำบุญสะเดาะเคราะห์ รักษาโรค ซึ่งขณะนี้ตนได้รับข้อมูลหลักฐานจากผู้เสียหายอยู่ 2 คดี โดยรายแรกนั้นถูกหลอกให้เอาเงินมาทำบุญสะเดาเคราะห์ จนสูญเสียทรัพย์สินจำนวนกว่า 6 แสนบาท ขณะที่อีกรายถูกหลอกให้รักษาโรคด้วยวิธีการที่ผิดวิธีจนทำให้เสียชีวิต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการติดต่อเพื่อพามาเข้าแจ้งความ

ขณะที่ บี ฟักโกสต์ กล่าวว่า เพจสมาคมต่อต้านสิ่งงมงาย ได้รับการร้องเรียนจากสมาชิกเพจว่าถูกหลอกลวงในลักษณะดังกล่าวหลายราย ซึ่งส่วนใกหญ่ไม่กล้าเปิดเผยตัวเนื่องจากเกรงว่าจะได้รับความอับอาย แต่ก็มีบางรายที่ยอมให้ข้อมูลรายละเอียด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเอาผิดกับพวกร่างทรงลวงโลกเหล่านี้ ทั้งนี้ก้เพื่อเป็นการปราบปรามไม่ให้กลุ่มร่างทรงเหล่านี้ไปทำการหลอกลวงผู้อื่นต่อไป

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่รับเรื่องดังกล่าว ก่อนส่งให้ผู้บังคับบัญชาเป็นผู้พิจารณาสั่งการต่อไป