posttoday

WHOจับมือสสส.สร้างเสริมสุขภาพบนเวทีโลก

24 พฤษภาคม 2561

WHO จับมือ สสส. ขยายความร่วมมือสร้างเสริมสุขภาพ ปี 2561-2563 ในเวทีสมัชชาอนามัยโลก

WHO จับมือ สสส. ขยายความร่วมมือสร้างเสริมสุขภาพ ปี 2561-2563 ในเวทีสมัชชาอนามัยโลก

นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข ในฐานะรองประธานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ คนที่ 1 เปิดเผยว่า ได้ร่วมลงนามขยายระยะเวลาความร่วมมือว่า ด้วยการสร้างเสริมสุขภาพ ปี 2561-2563 ระหว่างองค์การอนามัยโลก(WHO) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ประเทศไทย เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา โดย ดร. เท็ดรอส ได้แสดงความชื่นชมความร่วมมือระหว่างองค์การอนามัยโลก และ สสส. ประเทศไทย และเห็นประโยชน์ต่อการสร้างเครือข่ายสุขภาพทั้งในระดับประเทศ ภูมิภาค และระดับโลก

ทั้งนี้ ข้อตกลงความร่วมมือนี้เป็นอีกตัวอย่างที่ดีว่า ประเทศกำลังพัฒนาอย่างประเทศไทย มีศักยภาพสามารถมีบทบาทในการสนับสนุนวาระนโยบายสุขภาพโลกได้ในระดับสูงสุด โดยไทยได้ขับเคลื่อนงานภายใต้แผนยุทธศาสตร์ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและองค์การอนามัยโลกหรือ WHO-CCS โดยความร่วมมือในรูปแบบนวัตกรรม เช่นนี้ มุ่งเน้นการระดมทุนทางสังคม และ ทุนทางปัญญา

ด้าน ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า การลงนามบันทึกความร่วมมือระหว่าง สสส. และองค์การอนามัยโลก เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2553 และ 2558 ซึ่งได้ขยายเวลาความร่วมมือเพิ่มขึ้นในปีนี้ ความร่วมมือในครั้งล่าสุดนี้ มุ่งเน้นการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพใน 6 ประเด็นหลักของวาระนโยบายสุขภาพโลก เพื่อช่วยให้ประเทศไทยและประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ สามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน และ การลดปัจจัยเสี่ยงของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ที่เป็นปัญหาทางสาธารณสุข

สำหรับเป้าหมายสำคัญ 6 ประเด็นในความร่วมมือครั้งนี้ คือ 1.สร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่ายและเสริมศักยภาพในการพัฒนานโยบายแอลกอฮอล์ในประเทศกำลังพัฒนา 2.การส่งเสริมกิจกรรมทางกาย เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายลดพฤติกรรมเนือยนิ่งลงให้ได้ร้อยละ 10 ภายในปี 2568 3.การสร้างเสริมสุขภาพเด็กและเยาวชนในสถานศึกษา 4.สร้างเครือข่ายส่งเสริมศักยภาพลดการบริโภคอาหารรสเค็มในระดับภูมิภาค เพื่อลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง 5.ส่งเสริมให้เกิดระบบการเฝ้าระวังเพื่อป้องกันโรคไม่ติดต่อ เพื่อควบคุมและส่งเสริมสุขภาพในภูมิภาคอาเซียนใน 6 ประเทศคือ กัมพูชา ลาว มาเลเซีย เมียนมาร์ เวียดนาม ไทย และ 6.สร้างความเข้มแข็งระบบบริการปฐมภูมิในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทั้งนี้ ความร่วมมือครั้งนี้ จะสร้างความสัมพันธ์ส่งเสริมพันธกิจเพื่อสร้างสุขภาวะที่ยั่งยืนต่อประชากรไทยและประชากรในประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคอื่นทั่วโลก

ภาพ / ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส.