"เจิมศักดิ์" ชี้เอ็นบีที ต้องหลุดจากอิทธิพลรัฐ

ดร.เจิมศักดิ์ แนะช่องเอ็นบีที ต้องหลุดจากอิทธิพลรัฐและบริหารโดยองค์กรอิสระ – หลังพล.ท.สรรเสริญ ขอใช้ ม.44 ทำให้หาโฆษณาได้

เมื่อวันที่ 16 เม.ย.  จากกรณีที่ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้มาตรา 44 ให้ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ของกรมประชาสัมพันธ์ สามารถหาโฆษณาได้

ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ศาสตราภิชาน มหาวิทยาลัยรังสิต ได้โพสต์วิเคราะห์แนวทางการดำเนินการดังกล่าว โดยเนื้อหาสรุปว่า กรมประชาสัมพันธ์ได้รับงบประมาณปีละราว 240 ล้านบาท ซึ่งถือว่าไม่มาก แต่การจะให้สถานโทรทัศน์ เอ็นบีที พัฒนาไปในทิศทางเดียวกับโทรทัศน์ธุรกิจที่มีมากช่องอยู่แล้ว ไม่น่าจะเป็นทิศทางที่ถูกต้อง เพราะขณะนี้สถานีโทรทัศน์แบบธุรกิจมีหลายสิบช่อง ซึ่งเอ็นบีที จะมีอะไรแตกต่างจากโทรทัศน์ระบบต่างๆ ที่แม้จะมีโฆษณามากกว่า แต่ก็กำลังลำบาก

ดังนั้นเสนอ 3 แนวทางการพัฒนาเอ็นบีที ของกรมประชาสัมพันธ์ ที่ปัจจุบันไม่ค่อยมีคนดู คือ 1.แปลงให้เป็นทีวีสาธารณะ และบริหารควบคุมโดยองค์กรอิสระอย่างแท้จริง พร้อมเน้นว่า ต้องปลอดอิทธิพลจากรัฐบาลทุกประเภท เพราะถ้ายังให้ราชการดูแลและบริหาร ก็จะไม่มีทางปลอดจากการเมือง

2.ทบทวนเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์เดิมของการก่อตั้ง คือ ให้เป็นโทรทัศน์เพื่อการศึกษาในการช่วยสร้างกระบวนการคิดและจินตนาการของคนไทยในอนาคต 3.ถ้าไม่สามารถปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่และพฤติกรรมผู้บริโภค ก็ควรยุติบทบาทปิดสถานี