ครม.ให้ปลัด-รองปลัดพม.ออกจากราชการรอสอบเอี่ยวโกงงบคนไร้ที่พึ่ง

รมว.พม.เผย ครม.ให้ปลัด-รองปลัดพม.ออกจากราชการ รอ ตรวจสอบทุจริตงบคนไร้ที่พึ่ง

เมื่อวันที่ 10 เม.ย. พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)  เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีคำสั่งให้นายพุฒิพัฒน์  เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัดกระทรวง และนายณรงค์ คงคำ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อรอผลการสอบสวน และแต่งตั้ง นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม (สศช.) ไปดำรงตำแหน่งปลัดพม. แทน ส่วนตัวมองว่ามีความเหมาะสม เพราะเป็นผู้มีประสบการณ์การทำงาน และได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมครม. โดยนายกรัฐมนตรีต้องการให้นายปรเมธี เข้ามาช่วยงาน ในการเตรียมการพัฒนาสังคมในอนาคต ทั้งเรื่องผู้สูงอายุและเด็ก ที่รัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ซึ่งจะมีการพิจารณาแต่งตั้งรองปลัด พม.คนใหม่แทน ในการประชุม ครม. ครั้งต่อไปในสัปดาห์หน้า เพื่อให้กระทรวงพม. ได้พิจารณาคนภายในให้ละเอียดรอบคอบ ยืนยันว่าการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ไม่ใช่การแก้อาถรรพ์กระทรวงที่ก่อนหน้านี้มีการทุจริตอยู่บ่อยครั้ง แต่ถือเป็นจังหวะของการปรับเปลี่ยน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดยยึดตามหลักการที่ผู้ตรวจการ หรือรองอธิบดีขึ้นดำรงตำแหน่งรองปลัดแทน และดูความอาวุโส ผลงานและความดี ซึ่งเรื่องนี้ไม่เป็นปัญหา ทุกอย่างยึดตามความเหมาะสมเป็นธรรม

รมว.พม.กล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบการทุจริตเงินผู้ยากไร้และคนไร้ที่พึ่ง ขณะนี้มีข้อมูลพบข้าราชการเข้าข่ายทุจริตประมาณ 95 คนที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ส่งรายชื่อเข้ามายังกระทรวง และได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาแล้ว 14 คน ส่วนอีก 81 คน ให้ทาง ป.ป.ท. เป็นผู้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา หากพบว่า มีมูลความผิด ก็สามารถส่งเรื่องมายังกระทรวง เพื่อให้มีการลงโทษได้ทันที ส่วนกรณีที่มองว่าทางกระทรวงดำเนินการเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องช้าเกินไปนั้น พลเอกอนัตตพร ขอให้เข้าใจระเบียบข้าราชการ ที่กำหนดให้ผู้กระทำความผิดสามารถอุทธรณ์ได้ หากข้ามขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งอาจเกิดความเสียหาย ยืนยันว่าการพิจารณาจะรวดเร็วมากขึ้นในช่วงท้ายของการตรวจสอบ และการตรวจสอบในปัจจุบันถือว่าเร็วกว่าในอดีตมาก โดยขณะนี้ได้มีการประชุม ของคณะกรรมการตรวจสอบกลุ่มข้าราชการระดับสูงของกระทรวงไปแล้ว 2 ครั้ง และเริ่มมีความคืบหน้าการชี้มูลความผิด แต่ยังพิจารณาไม่ถึงขั้นตอนของเส้นทางการเงิน ซึ่งกำลังเริ่มตรวจสอบความเชื่อมโยงและความเกี่ยวข้องในการกระทำผิด ยืนยันว่าหลังเทศกาลสงกรานต์จะมีความชัดเจนขึ้น พร้อมยอมรับว่า พบลักษณะการทอนเงินกลับเข้ากระทรวงเข้ามาด้วย แต่ต้องหาหลักฐานให้ชัดเจนก่อน ซึ่งมีหลายพื้นที่ ส่วนที่มีคนใกล้ชิดผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพม. เกี่ยวข้องเส้นทางการเงินนั้น ให้เป็นหน้าที่ของ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ตรวจสอบ

พล.อ.อนันตพร เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้เป็นต้นไป ทางกระทรวงจะเริ่มใช้ระบบจ่ายเงินแบบอีเพย์เม้น เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าจับเงินสด เพื่อป้องกันการทุจริต