ทลายแก๊งค้ายาข้ามชาติรายใหญ่ยึดทรัพย์กว่า16ล้าน เผยเน้นขายลูกค้ากระเป๋าหนัก

ตำรวจรวบแก๊งยาเสพติดข้ามชาติพร้อมยึดทรัพย์กว่า 16 ล้านบาท เผยขายยาอี-ยาไอซ์-กัญชาออแกนิก ให้นักเที่ยวกระเป๋าหนักในสถานบันเทิง

เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 ถ.วิภาวดีรังสิต พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม รองผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ทท. พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษณ์ ผบก.สปพ. พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ สายันประเสริฐ รองผบก.สปพ. พ.ต.อ.นิติธร จินตกานนท์ รองผบก.สปพ พ.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผบก.สปพ. พ.ต.อ.สมบูรณ์ เทียนขาว ผกก.สายตรวจบก.สปพ. พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รองผบก.ทท.2 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติพร้อมของกลางและทรัพย์สินหลายล้านบาท

ผู้ต้องหาทั้งหมดประกอบด้วย นายสุทธิมาน สมานแก้ว อายุ 29 ปี, น.ส.สิรินดา คำประเทือง อายุ 20 ปี, น.ส.หทัยลักษณ์ สินธุกุฏ อายุ 28 ปี และนายซุกูกะ คิงลีย์ โอเยเนกรู ชาวไนจีเรีย อายุ 29 ปี พร้อมของกลางกัญชาออแกนิก จำนวน 20 ห่อ ยาอีจำนวน 2,352 เม็ด ยาเคจำนวน 43 ขวด ยาไอซ์น้ำหนักประมาณ 300 กรัม

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจยึดบ้าน 2 หลัง มูลค่า 7,195,000 บาท สร้อยคอทองคำ และเครื่องทองจำนวนหลายรายการมูลค่าประมาณ 340,000 บาทโฉนดที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จำนวน  2 ฉบับมูลค่าประมาณ 3,300,000 บาท รถยนต์จำนวน 3 คัน มูลค่าประมาณ 1,000,000 บาท รถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน มูลค่าประมาณ 40,000  บาท และคอนโดมิเนียม รวมทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้มูลค่าประมาณ 16,000,000 บาท

พ.ต.อ.สมบูรณ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 มี.ค.เวลา 20.00 น. เจ้าหน้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ2 กก.สายตรวจ บก.สปพ. ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายสุทธิมาน พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 10 เม็ด ต่อมาเมื่อวันที่ 24 มี.ค. ได้ขยายผลล่อซื้อยาไอซ์จำนวน 50 กรัม จากน.ส.หทัยลักษณ์ ซึ่งมีน.ส.สิรินดา เป็นผู้ส่งของ จากนั้นจึงนำไปตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหาทั้ง 2 หลังพบเงินสดและทรัพย์สินจำนวนมาก

จากนั้นเมื่อวันที่ 25 มี.ค. ได้ขยายผลจับกุมนายซุกูกะ พร้อมของกลางยาไอซ์ 200 กรัม และยาอี 1,885 เม็ด

พ.ต.อ.สมบูรณ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าทำมาประมาณ 2-3 ปี โดยนายซุกูกะ จะเป็นคนรับยาจากผู้ค้ารายใหญ่ซึ่งอยู่ต่างประเทศ ที่มาวางไว้ที่ย่านกิ่งแก้ว จ.สุมทรปราการ ตามจุดที่กำหนดไว้ จากนั้นส่งต่อไปยังน.ส.หทัยลักษณ์ โดยให้น.ส.สิรินดาเป็นคนนำยาไปให้ลูกค้าโดยให้ค่าจ้างครั้งละ 9,000 บาท จากการสืบสวนขยายผลทราบว่าในเครือข่ายยาเสพติดต่างชาติรายนี้ยังมีผู้ร่วมกระทำความผิดหลายรายจึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขยายผลการจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยต่อว่า ยาเสพติดดังกล่าว ยาอี ยาไอซ์ จะขายอยู่ในวงจรสถานบันเทิง และผู้ที่มีฐานะค่อนข้างดี นอกจากนี้ยังมีการผลิตกัญชาออแกนิก เป็นกัญชาจากต่างประเทศ ซึ่งมีราคาถุงละ 1,000 บาทเป็นการคัดแยกนำเฉพาะส่วนที่ดีมาบรรจุในถุงที่เป็นของประเทศไทยและนำไปจำหน่ายตามออเดอร์ที่ลูกค้าจัดส่งมา โดยส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ พัทยา

นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบเส้นทางการเงินจากบัญชีดังกล่าว เนื่องจากน.ส.หทัยลักษณ์ ไม่มีการประกอบอาชีพใดการที่มีเงินจำนวนมากขนาดนี้จะต้องมีที่มาที่ไปจึงจะทำการขยายผลตามมาตราการสมคบกันฟอกเงิน

เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ส่วนนายซุกูก แจ้งเพิ่มข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดนสิ้นสุดการอนุญาต ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ภาพจาก www.fm91bkk.com