posttoday

ทอพ.ประกาศเจตนารมณ์ช่วยขับเคลื่อนพันธกิจรัฐบาลสำเร็จเร็วขึ้น

23 มีนาคม 2561

ทอพ.ประกาศเจตนารมณ์พัฒนาสู่องค์กรที่มีสมรรถนะ-มีธรรมาภิบาลสูง ชงข้อเสนอต่อรัฐบาลช่วยขับเคลื่อนพันธกิจสำเร็จเร็วขึ้น

ทอพ.ประกาศเจตนารมณ์พัฒนาสู่องค์กรที่มีสมรรถนะ-มีธรรมาภิบาลสูง ชงข้อเสนอต่อรัฐบาลช่วยขับเคลื่อนพันธกิจสำเร็จเร็วขึ้น

เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ที่ประชุมผู้บริหารองค์กรของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติเฉพาะ (ทอพ.) จัดประชุมวิชาการที่ประชุมผู้บริหารองค์กรของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติเฉพาะ (ทอพ.) ครั้งที่ 5 หัวข้อ “New Public Management: Thailand 4.0” การจัดการภาครัฐแนวใหม่ : ไทยแลนด์ 4.0 โดยมี ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช เป็นเปิดงาน และแสดงปาฐกถาเรื่อง “องค์กรพรบ.เฉพาะยุค Thailand 4.0  : New Public Management สู่องค์การสมรรถนะสูงและมีธรรมาภิบาล” โดยมีผู้บริหาร บุคลากร จาก 16 องค์กรสมาชิก ร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงาน

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในฐานะประธานที่ประชุมผู้บริหารองค์กรของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติเฉพาะ (ทอพ.) กล่าวว่า การรวมตัวกันของ ทอพ. มีเจตนารมณ์เดียวกัน เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยตามแนวคิดการจัดการภาครัฐแนวใหม่ ภายใต้วิสัยทัศน์ “ประสานพลังสร้างการจัดการองค์กรภาครัฐที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน” เพื่อมุ่งสู่ Thailand 4.0 ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนประเทศไทย สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน มีเป้าหมายให้ประเทศก้าวออกจากกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง กับดักความเหลื่อมล้ำ สู่ประเทศที่มีรายได้สูง โดยใช้นวัตกรรมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในหลายๆ ด้าน อาทิ ด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา ด้านความมั่นคงเทคโนโลยีและอุตสาหกรรม ทำให้หน่วยงานรัฐต่างๆ ต้องเร่งปรับตัว เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงให้องค์กรมีขีดสมรรถนะสูงและทันสมัย

ดร.สุปรีดา กล่าวต่อว่า ทอพ. ได้ร่วมกันประกาศเจตนารมณ์และจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการพัฒนาองค์กร ทอพ. ไปสู่การเป็นองค์กรสมรรถนะสูงและมีธรรมาภิบาล เพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน และได้รับความไว้วางใจเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง  ดังนี้ 1.ประสานพลังและบูรณาการอย่างเป็นรูปธรรม โดยเพิ่มบทบาทการให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายแก่รัฐบาล การดำเนินงานตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ ร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหา และสร้างภูมิคุ้มกันแก่ชุมชนและสังคมเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน  2.เร่งพัฒนาไปสู่การเป็นองค์กรสมรรถนะสูงและมีธรรมาภิบาล มีความคล่องตัวในการบริหารจัดการ มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ประสานทรัพยากรร่วมกัน สร้างนวัตกรรมแนวคิดใหม่ในการแก้ปัญหา และ 3.จัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายแก่รัฐบาลและหน่วยงานที่กำกับองค์กรภาครัฐ เพื่อพัฒนา 16 องค์กรเฉพาะให้สามารถดำเนินการตามพันธกิจของแต่ละองค์กรได้อย่างเป็นอิสระและคล่องตัวมากขึ้น ที่สำคัญช่วยการขับเคลื่อนพันธกิจของรัฐบาลได้ให้สำเร็จ โดยทบทวนข้อกำหนด ข้อบังคับที่เป็นอุปสรรคในการทำงาน โดยมุ่งยึดแนวทางการบริหารจัดการองค์กร และกลไกการกำกับตามที่ได้ออกแบบและระบุไว้ในพระราชบัญญัติเฉพาะของแต่ละองค์กรเป็นหลัก

นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าว การประชุมวิชาผู้บริหาร ทอพ.ครั้งที่ 5 ในครั้งนี้ ซึ่งดำเนินภายใต้หัวข้อ New Public Management : Thailand 4.0 ซึ่ง Thailand 4.0 เป็นโมเดลขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน โดยใช้นวัตกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในหลายๆ ด้าน อาทิ สาธารณสุข การศึกษา ความั่นคง เทคโนโลยีและอุตสาหกรรม ถือเป็นเป้าหมายสำคัญของการดำเนินงานทั้ง 16 องค์กรของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตาม พรบ.เฉพาะ และจากเป้าหมาย Thailand 4.0 ทำให้หน่วยงานรัฐจำเป็นต้องมีการปรับตัวเป็นหัวขบวนในการขับเคลื่อนเปลี่ยนแปลง ให้มีขีดสมรรถนะสูง ทันสมัย และทำงานโดยการยึดหลักธรรมมาภิบาล เพื่อให้สามารถเป็นที่ไว้วางใจและเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริง

“การประชุมวิชาการผู้บริหารองค์กรของรัฐตาม พรบ.เฉพาะ ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐภายใต้กลไกบริหารจัดการในรูปแบบใหม่ จากความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ นอกจากเป็นการเปิดวิสัยทัศน์และมุมมองการทำงานที่นำไปสู่การพัฒนาการดำเนินงานของแต่ละองค์กรให้มีสมรรถนะและธรรมาภิบาลสูงแล้ว ยังนำไปสู่การขับเคลื่อนการบริหารจัดการแนวใหม่ของทั้ง 16 องค์กร เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน” เลขาธิการ สปสช. กล่าว

ทั้งนี้ ทอพ. มีสมาชิกเป็นองค์กรของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติเฉพาะจำนวน 16 หน่วยงานที่มีพันธกิจแตกต่างกันใน 4 มิติ ได้แก่ ด้านสุขภาพ ด้านการศึกษา ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และด้านกองทุนสนับสนุน อาทิ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และ สถาบันอนุญาโตตุลาการ (THAC) ฯลฯ