เหยื่อร้องดีเอสไอจับแก๊งหลอกทำวีซ่าไปทำงานต่างประเทศ

กลุ่มผู้เสียหายร้องเรียนดีเอสไอหลังถูกหลอกทำวีซ่าเพื่อเดินทางไปทำงานต่างประเทศ เผยมูลค่าเสียหายร่วม 3 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นางศิรินธร เจริญสุข พร้อม ตัวแทนผู้เสียหายกว่า 10 ราย เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกดีเอสไอ กรณีถูกคนร้ายหลอกทำวีซ่าเพื่อเดินทางไปทำงานต่างประเทศแต่ไม่สามารถทำงานได้จริง โดยมีผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ราย มูลค่าความเสียหายร่วม 3 ล้านบาท

นางศิรินธร กล่าวว่า วันนี้มายื่นเรื่องเพื่อให้ดำเนินคดีกับ นางติมาภัทร เอี่ยมพันธ์นิจกุล และ น.ส.ไอย์วรินทร์ ศรีโพธิ์อุ่น หลังมีพฤติการณ์หลอกลวงผู้เสียหายผ่านทางเฟซบุ๊กว่าสามารถชักชวนพาไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ โดยมีการหลอกขายแพคเกจทั้งแบบที่ขอวีซ่าชำนาญการถูกต้องและแบบลักลอบทำงานโดยผิดกฎหมาย หรือที่เรียกว่า "แพ็คเกจผีน้อย" คิดค่านายหน้าตั้งแต่ 30,000 - 300,000 บาท แต่เมื่อโอนเงินให้กลับไม่สามารถไปทำงานได้จริง ซึ่งผู้เสียหายได้ตรวจสอบพบว่าเป็นข้อมูลจริงของบริษัทนั้นๆ แต่คนร้ายนนำมาแอบอ้างให้หลงเชื่อจึงทราบว่าถูกหลอก หลังจากนั้นได้พยายามติดต่อคนร้ายเพื่อขอเงินคืนแต่กลับถูกบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด

"มีบางส่วนที่สามารถเดินทางไปถึงประเทศเกาหลีใต้แล้วแต่ถูกลอยแพไม่มีงานทำหรือบางรายถูกบังคับให้ทำงานอย่างผิดกฎหมาย โดยไม่ได้รับค่าแรงและถูกข่มขู่ว่าจะนำบัญชีธนาคารและพาสปอร์ตที่นายหน้ายึดไว้ไปขายต่อให้กับแก๊งมิจฉาชีพและขบวนการฟอกเงิน บางคนถึงกับต้องกู้เงินจากธนาคารเพื่อต้องการไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัว แต่สุดท้ายก็ถูกเชิดเงินหนี นอกจากนี้ เมื่อตรวจสอบประวัติของนายหน้าทั้งสองคนนี้พบว่าเป็นนายหน้าเถื่อนที่หลอกคนไปทำงานที่เกาหลีใต้มานับไม่ถ้วน มีการปลอมแปลงตราประทับของประเทศญี่ปุ่น เวียดนาม และออสเตรเลีย เคยถูกออกหมายจับมาแล้วหลายคดี แต่ก็มักจะเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนเฟซบุ๊กหลบหนีไปเรื่อยๆ"นางศิรินธรกล่าว

พ.ต.ต.วรณัน เปิดเผยว่า เตรียมนำเรื่องส่งให้หน่วยบริการประชาชนเข้าพิจารณาตามหลักเกณฑ์ว่าเข้าข่ายอำนาจของ ดีเอสไอ หรือไม่ เนื่องจากคนร้ายมีการหลอกลวงผู้เสียหายผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ รวมทั้ง ตรวจสอบการทำวีซ่าด้วยว่าดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายถูกต้องหรือไม่เช่นกัน